แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ฎีกาที่กล่าวข้อความลอย ๆ ว่าศาลอุทธรณ์พิพากษาไม่ชอบด้วยกฎหมายและรูปคดีมิได้แสดงให้เห็นว่าไม่ชอบด้วยรูปคดีในข้อไหนเพียงใดให้ชัดเจน ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยถึงหากจะเป็นคดีที่จะฎีกาได้ทั้งข้อกฎหมายและข้อเท็จจริงก็ตาม อ้างฎีกาที่ 337/2478 ที่ 343/2478
คำแถลงการณ์ด้วยวาจาของทนายเป็นเพียงคำอธิบายข้อฎีกาให้กระจ่างชัดเจนขึ้นเท่านั้นหามีผลเป็นข้อฎีกาไม่ อ้างฎีกาที่ 738 – 739/2475 ที่ 771/2475 และ ที่ +35/2476
ย่อยาว
คดีนี้โจทก์ฟ้องขอให้ศาลบังคับจำเลยตามคำขอหลายประการ ศาลเดิมพิพากษายกฟ้องโจทก์ ศาลอุทธรณ์ พิพากษากลับคำตัดสินศาลเดิมให้โจทก์ชนะคดี
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่าฎีกาของจำเลยกล่าวถึงฟ้อง คำให้การ คำพิพากษาศาลเดิมและศาลอุทธรณ์เพียงย่อ ๆ แล้วกล่าวข้อคัดค้านว่าศาลอุทธรณ์พิพากษาไม่ชอบด้วยกฎหมายและรูปคดี มิได้กล่าวว่าไม่ชอบด้วยกฎหมายและรูปคดีในข้อไหนเพียงใดให้ชัดเจน เป็นการต้องห้ามตาม พรบฎีกา อุทธรณ์ พ.ศ.๒๔๖๑ ม.๙ ถึงแม้ว่าคดีนี้จะเป็นคดีที่ฎีกาได้ทั้งข้อกฎหมายและข้อเท็จจริงก็ตาม ม.๙ นี้ก็ยังใช้บังคับถึงด้วย ฎีกาของจำเลยจึงไม่เป็นฎีกาอันควรรับไว้วินิจฉัยตามกฎหมาย อนึ่งคำแถลงการณ์ด้วยวาจาของทนายจำเลยก็มีผลเป็นเพียงคำอธิบายข้อฎีกาเท่านั้นหามีผลเป็นข้อฎีกาไม่ อ้างฎีกาที่ ๗๓๘-๗๓๙/๒๔๗๕ ที่ ๗๗๑/๒๔๗๕ และที่ ๖๓๕/๒๔๗๖ จึงให้ยกฎีกาจำเลยเสีย