แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
คดีหาว่าจำเลยกรรโชกโจทก์สืบพยานได้ 2 ปาก ได้ความว่า จำเลยจับผู้เสียหายมาล่ามโซ่ไว้แล้วพูดจาเรื่องเงินกัน โดยจำเลยว่าเมื่อเสียเงิน 400 บาทแล้วจะปล่อย ศาลสั่งงดสืบพยานต่อไป โดยเห็นว่ายังไม่เป็นผิดฐานกรรโชกนั้น เป็นการไม่ชอบ เพราะคดียังไม่พอรับฟังเป็นเด็กขาดว่าผู้เสียหายเต็มใจให้เงินเองโดยปราศจากการขู่เข็ญ ควรสืบพยานต่อไปจนสิ้นกระแสร์ความ
ย่อยาว
คดีนี้ โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานกรรโชกตามกฎหมายลักษณะอาญา ม.๓๐๓ จำเลยปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นสืบพยานโจทก์ ๒ ปากแล้วสั่งงดสืบพยานต่อไป และพิพากษาว่านายสุขพยานโจทก์เบิกความว่านายโพกขอหาเงินให้จำเลย ๆ รับว่าเมื่อเสียให้ ๔๐๐ บาทแล้วจะปล่อย ซึ่งถ้าตามคำพยานปากนี้ก็ไม่มีการขู่เข็ญขืนใจประการใด ไม่เป็นผิดฐานกรรโชกพิพากษายกฟ้อง ศาลอุทธรณ์พิพากษายกคำพิพากษาศาลชั้นต้นให้ดำเนินการสืบพยานจนสิ้นกระแสร์ความแล้วพิพากษาใหม่
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า ตามคำพยานโจทก์ที่นำสืบมานั้นยังไม่พอที่จะให้รับฟังเป็นเด็ดขาด ว่านายโพกเต็มใจให้เองโดยปราศจาการขู่เข็ญขืนใจ ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาชอบแล้ว
พิพากษายืน