คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 980/2500

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

บรรยายฟ้องว่าจำเลยออกเช็คสั่งให้ธนาคารหนึ่งจ่ายเงินให้ผู้เสียหายมีวันเดือนปีและเวลาและจำนวนเงินที่จำเลยสั่งธนาคารนั้นจ่ายให้ผู้เสียหายผู้เสียหายไปรับเงินธนาคารนั้นปฏิเสธไม่ยอมจ่ายเช่นนี้เป็นฟ้องที่สมบูรณ์แล้ว

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องในสำนวนคดีดำที่ 472, 473, 474, 475, 479, 480, 481,482 และ 483 พ.ศ. 2498 ว่า เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม 2498 เวลากลางวันจำเลยได้กระทำผิดกฎหมาย กล่าวคือ จำเลยได้ออกเช็คสั่งให้ธนาคารนครหลวงไทยจำกัด สาขาถนนอนุวงศ์ พระนคร จ่ายเงินแก่ผู้เสียหาย 9 สำนวนตามรายละเอียดดังนี้คือ

1. จ่ายเงิน 4,886 บาทให้แก่นางเจ๊ะโมงดุยุ

2. จ่ายเงิน 5,533 บาทให้แก่นางหะยีสีตีมีเนาะ

3. จ่ายเงิน 3,033 บาทให้แก่นางแมะอาโละเปาะฮะ

4. จ่ายเงิน 5,910 บาทให้แก่นายเจ๊ะอุมายุโซะ

5. จ่ายเงิน 11,982 บาทให้แก่นายแวสะตาปอสะดี

6. จ่ายเงิน 5,210 บาทให้แก่นางแมะบากา

7. จ่ายเงิน 4,203 บาทให้แก่นางเจ๊ะนิงยูโซะ

8. จ่ายเงิน 5,280 บาทให้แก่ นางแมะบือระวาจิ

9. จ่ายเงิน 4,203 บาทให้แก่ นายเจ๊ะฮะยูโซะ และตามฟ้องคดีดำที่ 478/2498 ว่าเมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม 2498 เวลากลางวัน จำเลยได้ออกเช็คให้ธนาคารนครหลวงไทยจำกัด สาขาถนนอนุวงศ์ จ่ายเงิน 7,250 บาทให้แก่นางหะยีแวแอเสาะอับดุลเลาะ

ผู้ทรงเช็ค 10 รายซึ่งเป็นผู้เสียหายได้ติดต่อขอให้ธนาคารนครหลวงไทย จำกัด สาขาปัตตานีจัดการให้ผู้เสียหายได้รับเงินตามเช็คนั้น ธนาคารนครหลวงไทย จำกัดสาขาปัตตานีได้ติดต่อแล้ว แต่ธนาคารนครหลวงไทย จำกัดปฏิเสธไม่จ่ายเงินตามเช็คนั้นทั้งนี้โดยจำเลยออกเช็คนั้นโดยเจตนาที่จะไม่ให้มีการใช้เงินตามเช็คนั้น เหตุเกิดที่ตำบลอาเนาะรู อำเภอเมืองปัตตานี และตำบลโคกโพธิ์ อำเภอโคกโพธิ์จังหวัดปัตตานี ผู้เสียหาย 10 สำนวนได้ร้องทุกข์มอบคดีให้เจ้าพนักงานว่ากล่าวตามกฎหมายเจ้าพนักงานจับตัวจำเลยได้ทำการสอบสวนคดีมีมูล จึงขอให้ศาลลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดแต่การใช้เช็ค พ.ศ. 2497 มาตรา 3

จำเลยให้การปฏิเสธ และตัดฟ้องว่าฟ้องของโจทก์เคลือบคลุมไม่บรรยายว่าเช็คที่ฟ้องเป็นเช็คฉบับใด เงินเท่าใด ลงวันที่เท่าใดธนาคารปฏิเสธไม่ยอมจ่ายเงินด้วยเหตุใด จึงขอให้ศาลยกฟ้อง

ศาลชั้นต้นสั่งงดสืบพยานโจทก์ แล้วพิพากษาว่าฟ้องของโจทก์ไม่ครบถ้วนตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158 เพราะมิได้บรรยายว่า เช็คที่ฟ้องเป็นเช็คฉบับที่เท่าใดไม่ปรากฏเหตุและวันที่ธนาคารปฏิเสธไม่จ่ายเงิน เฉพาะวันที่ธนาคารปฏิเสธไม่จ่ายเงินเป็นสาระสำคัญ เพราะตาม มาตรา 5 แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2497 บัญญัติว่า เมื่อผู้ทำผิดชำระเงินตามจำนวนในเช็คแก่ผู้ทรงเช็คในกำหนดเวลาตามกฎหมายนับแต่วันที่ธนาคารที่มีชื่อในเช็คได้บอกกล่าวให้ผู้ออกเช็คทราบว่าธนาคารปฏิเสธไม่จ่ายเงิน ความผิดตามนี้ยกเลิกกันได้ ถ้าได้จัดการชำระเงินเสียภายในกำหนดที่กฎหมายบัญญัติไว้แล้ว การกระทำของจำเลยที่แล้วมาก็จะไม่เป็นความผิด เพียงแต่ธนาคารไม่จ่ายเงินให้ยังไม่เป็นองค์ความผิดสำเร็จ ดังกล่าวนี้เป็นข้อเท็จจริงที่จะต้องกล่าวไว้ในฟ้อง เมื่อโจทก์ไม่กล่าวไว้ ฟ้องของโจทก์ก็เคลือบคลุมจึงพิพากษาให้ยกฟ้อง

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษาว่า ฟ้องของโจทก์ไม่เคลือบคลุม ให้ศาลชั้นต้นดำเนินการพิจารณาแล้วตัดสินตามรูปคดี

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ที่โจทก์ฟ้องว่าจำเลยออกเช็คโดยเจตนาที่จะไม่ให้มีการใช้เงินตามเช็คนั้น โดยระบุข้อเท็จจริงและรายละเอียดแห่งการกระทำผิดมาพอให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้แล้วเมื่อธนาคารปฏิเสธไม่จ่ายเงินตามเช็ค ก็ย่อมมีความผิดเกิดขึ้นแล้วฟ้องของโจทก์ไม่เคลือบคลุม จึงพิพากษายืนตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์

Share