แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
วิธีพิจารณาแพ่ง รื้อร้องฟ้องคดีเรื่องเดียวกัน วางหลักเรื่องคดีเสร็จเด็ดขาด
ย่อยาว
โจทย์ฟ้องเรียกเงินกล่าวว่า จำเลยรับเงินค่าซื้อไม้ซุงเกินไปรวมทั้งดอกเบี้ยด้วยเปนเงิน ๔๐๘๐ บาท ขอให้คืน จำเลยให้การปฏิเสธแก้ว่า เมื่อคิดบาญชีกันแล้ว โจทย์ยังคงเปนณี่จำเลยอีก ดังที่จำเลยที่ ๑ ได้ฟ้องแล้วที่ศาลจังหวัดศุโขทัย
ฎีกาตัดสินว่า ต้องวินิจฉัยตามข้อตัดฟ้องที่จำเลยแก้นี้เสียก่อนว่า ณี่สินรายนี้จะเปนรายเดียวกับที่จำเลยได้ฟ้องโจทย์ที่ศาลจังหวัดศุโขทัยฤาไม่ การที่จะวินิจฉัยว่า คดีเสร็จเด็ดขาดฟ้องอีกไม่ได้ มีหลักคือ
๑. ประเด็นข้อทุ่มเถียง ทั้งเรื่องก่อนเรื่องนี้ต้องเหมือนกัน (มีที่สังเกตุว่าพยานชุดเดียวกันนั้นจะค้ำจุนอุดหนุนคดีทั้ง ๒ เรื่องได้ฤาไม่)
๒. คู่ความเรื่องหลังต้องเปนคู่ความหรือเปนผู้เกี่ยวข้องกับคดีเรื่องก่อน
๓. ประเด็นข้อทุ่มเถียงกันในคดีเรื่องก่อนนั้นศาลมีอำนาจได้พิพากษาเด็ดขาดไปแล้ว
เมื่อได้พิจารณาแล้ว ศาลฎีกาเห็นว่าคดีเข้าหลักทั้ง ๓ หลักที่กล่าวมาข้างต้น คือประเด็นทั้ง ๒ คดีเปนประเด็นอันเดียวกัน คู่ความคน ๆ เดียวกัน แลในคดีเรื่องก่อนศาลฎีกาได้พิพากษาเด็ดขาดไปแล้วตามฎีกาที่ ๕๕๓/๖๖ ว่าโจทย์เปนณี่จำเลย จึงพิพากษาว่าคดีโจทย์ต้องด้วยบทห้ามตามมาตรา ๓ แห่งพระราชบัญญัติวิธีพิจารณาความแพ่ง ร.ศ.๑๒๗ ให้ยกฎีกาโจทย์แลยกฟ้องโจทย์ ยืนตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ฯ