คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 972/2479

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

หน้าที่นำสืบจะตกอยู่แก่จำเลยตาม ม.100 แห่ง พ.ร.บ.ข้างต้นจะต้องเป็นเรื่องเกี่ยวด้วยผู้ลอบลักหนี้ภาษีขาเข้าและขาออกหรือเป็นผู้สมรู้ในการนี้+เท่านั้นผู้รับซื้อของไว้จากพ่อค้าโดยเปิดเผยถึงแม้ของนั้นจะยังไม่เสียภาษีก็ตามก็หาตกอยู่ในบังคับมาตราข้างต้นนั้นไม่ ซื้อของไว้โดยชื่อไม่ทราบว่าเป็นของยังไม่ได้เสียภาษีไม่มีผิดตาม ม.27 + การที่จะริบของตามม.34 ต้องปรากฎว่าเป็นของที่ได้หลีกเลี่ยงไม่เสียภาษีหรือเป็นของต้องห้ามอย่างใด เมื่อโจทก์สืบไม่สมจะริบของนั้นมิได้ อุทธรณ์ฎีกา โจทก์ยื่นฎีกาครั้งแรกศาลชั้นต้นสั่งไม่รับเพราะฎีกาโจทก์ไม่ได้ระบุข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายโดยแจ้งชัด+โจทก์จึงไปทำฎีกามายื่น+ภายในอายุความเช่นนี้ศาลรับไว้พิจารณาได้ โจทก์ฟ้องว่าจำเลยทำผิด พ.ร.บ.ศุลกากร และ+ ม.100 มาด้วย ศาลชั้นต้นเชื่อฟังพะยานโจทก์ ศาลอุทธรณ์ไม่ชื่อโจทก์จึงฎีกาว่าเป็นหน้าที่ของจำเลยต้องพิศูจน์ไม่เรียกว่าเป็นข้อกฎหมายที่มิได้ร้องอ้างอิงมาแต่ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ ศาลฎีกาวินิจฉัยได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตาม พ.ร.บ.ศุลกากระ ๒๔๖๙ ม.๒๗-๓๔-๑๐๐ ซึ่งจำเลยปฏิเสธว่าไม่ทราบว่าเป็นของยังไม่ได้เสียภาษีและได้ซื้อไว้จากพ่อค้าอื่นโดยเปิดเผย
ศาลชั้นต้นปรับจำเลยตาม ม.๒๗ กับให้ริบของกลาง
ศาลอุทธรณ์ตัดสินว่าไม้ขีดไฟตรากวาง ๓๕ ห่อ โจทก์สืบไม่ได้ว่ายังไม่ได้เสียภาษี คดีโจทก์ยังลงโทษจำเลยมิได้ส่วนข้ออื่นยืนตามศาลชั้นต้น
โจทก์ฎีกาครั้งแรกศาลชั้นต้นสั่งไม่รับฎีกาเพราะโจทก์มิได้ระบุข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายที่อ้างอิงไว้ในฎีกาให้ชัดเจน โจทก์จึงทำฎีกามายื่นใหม่ ระบุว่าตาม ม.๑๐๐ บังคับให้เป็นหน้าที่ของจำเลยนำสืบว่าของกลางได้เสียภาษีแล้วและเมื่อจำเลยนำพิศูจน์ไม่ได้ว่าไม้ขีดไฟตรากวางได้เสียภาษีแล้วก็ต้องมีผิด
ศาลฎีกาตัดสินว่าปัญหาข้อแรกที่จะต้องวินิจฉัยก็คือโจทก์จะมีสิทธิยื่นฎีกาครั้งที่ ๒ ได้หรือไม่ ซึ่งเห็นว่าโจทก์ย่อมทำได้ภายในกำหนดอายุความฎีกา และเห็นว่าคดีนี้ถึงแม้โจทก์จะมิได้อ้างอิงในศาลชั้นต้นว่าเป็นหน้าที่ของจำเลยจะต้องพิศูจน์ก็ดี แต่โจทก์ก็ได้อ้างมาตรา ๑๐๐ ไว้ท้ายฟ้องแล้ว เมื่อศาลชั้นต้นเชื่อพะยานโจทก์แล้ว โจทก์ก็ไม่จำต้องกล่าวอ้างปัญหานี้ในชั้นศาลอุทธรณ์ ต่อเมื่อศาลอุทธรณ์ไม่ฟังพะยานโจทก์ ๆ ก็ยอมยกปัญหาที่กล่าวนั้นขึ้นในชั้นฎีกาได้ แต่อย่างไรก็ตามหน้าที่นำสืบจะตกอยู่แก่จำเลยตาม ม.๑๐๐ ก็ต่อเมื่อเป็นเรื่องเกี่ยวกับผู้ลอบลักหนีภาษีขาเข้าและขาออก+ และหาเกี่ยวกับผู้ซื้อของจากพ่อค้าดังจำเลยในคดีเรื่องนี้ไม่จำเลยจึงมิได้อยู่ในกรอบแห่ง ม.๑๐๐ อนึ่งการที่จำเลยในคดีนี้ ซื้อไม้ขีดของกลางไว้โดยชื่อไม่ทราบว่าได้เสียภาษีแล้วหรือยัง จะเอาผิดแก่จำเลยตาม ม.๒๗ มิได้และจะริบของกลางก็ไม่ได้เช่นเดียวกัน เพราะโจทก์สืบไม่ได้ว่าไม้ขีดไฟของกลางยังไม่ได้เสียภาษี จึงพิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์

Share