แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
สายลับผู้ล่อซื้อติดต่อพูดคุยและตกลงซื้อขายตลอดจนนัดหมายสถานที่และวิธีการส่งมอบเมทแอมเฟตามีนและเงินสดของกลางกับ ป. ทางโทรศัพท์เคลื่อนที่เพียงสองคน โดยไม่ปรากฏว่าจำเลยมีส่วนร่วมในการติดต่อหรือรู้เห็นกับ ป. ในการทำความตกลงดังกล่าว และไม่ได้ความว่าจำเลยมีส่วนเกี่ยวข้องในการนำห่อเมทแอมเฟตามีนของกลางไปวางไว้ใต้สะพานลอยเพื่อส่งมอบให้แก่สายลับตามที่ ป. นัดหมายไว้ ข้อเท็จจริงฟังได้เพียงว่า หลังจากสายลับนำถุงพลาสติกใส่เงินสดของกลางไปวางไว้ที่ตู้โทรศัพท์สาธารณะตามที่ ป. แจ้งแก่สายลับแล้ว จำเลยซึ่งนั่งมาในรถกระบะของคนร้ายลงจากรถเดินเข้าไปหยิบถุงพลาสติกดังกล่าวจึงถูกเจ้าพนักงานตำรวจที่ซุ่มอยู่เข้าจับกุม โดยไม่มีหลักฐานที่เป็นข้อบ่งชี้ว่าจำเลยล่วงรู้สถานที่ส่งมอบเงินค่าซื้อเมทแอมเฟตามีนมาก่อนและเดินทางไปซุ่มรออยู่กับพวกที่บริเวณใกล้ตู้โทรศัพท์ก่อนแล้วเพื่อเตรียมเข้าไปเอาถุงใส่เงินเมื่อมีผู้นำไปวางไว้ให้ ข้อเท็จจริงที่ได้ความดังกล่าวยังไม่เพียงพอให้ฟังว่าจำเลยเป็นตัวการร่วมกับ ป. ในการจำหน่ายเมทแอมเฟตามีนของกลางโดยแบ่งหน้าที่กันทำ แต่ตามพฤติการณ์เชื่อได้ว่า จำเลยรู้ดีว่าถุงพลาสติกที่พวกของตนบอกให้ไปหยิบมาให้นั้น เป็นถุงใส่เงินค่าซื้อเมทแอมเฟตามีนที่ผู้ซื้อนำมาวางไว้ให้แก่พวกของตน ถือว่าขณะนั้นการจำหน่ายเมทแอมเฟตามีนยังไม่ขาดตอน การกระทำของจำเลยเป็นการช่วยเหลือหรือให้ความสะดวกในขณะที่ผู้อื่นกระทำความผิดฐานจำหน่ายเมทแอมเฟตามีน จึงเป็นความผิดฐานเป็นผู้สนับสนุนการจำหน่ายเมทแอมเฟตามีน แม้โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยในฐานะเป็นตัวการร่วมจำหน่ายเมทแอมเฟตามีน แต่เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้เพียงว่าจำเลยเป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิด ศาลมีอำนาจพิพากษาลงโทษจำเลยฐานเป็นผู้สนับสนุนตามข้อเท็จจริงที่พิจารณาได้ความนั้นได้
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 มาตรา 4, 7, 8, 15, 66, 102 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 ริบเมทแอมเฟตามีนของกลาง นับโทษจำเลยต่อจากโทษในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 2536/2548 และหมายเลขดำที่ 1187/2547 ของศาลชั้นต้น
จำเลยให้การปฏิเสธ แต่รับว่าเป็นบุคคลคนเดียวกับจำเลยในคดีที่โจทก์ขอให้นับโทษต่อ
ศาลชั้นต้นพิพากษาจำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 มาตรา 15 วรรคสาม, 66 วรรคสาม ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 จำคุกตลอดชีวิตและปรับ 2,500,000 บาท หากจำเลยไม่ชำระค่าปรับให้จัดการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 29, 30 โดยให้กักขังแทนค่าปรับได้เกินกว่าหนึ่งปีแต่ไม่เกินสองปี ริบเมทแอมเฟตามีนของกลาง นับโทษจำเลยต่อจากโทษในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 2536/2548 และ หมายเลขแดงที่ 214/2550 ของศาลชั้นต้น
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 7 พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงที่โจทก์และจำเลยไม่ฎีกาโต้แย้งกันยุติว่า นายปฏิภาณหรือโจ้ จำหน่ายเมทแอมเฟตามีนจำนวน 1,940 เม็ด ของกลางให้สายลับ โดยก่อนหน้าร้อยตำรวจเอกกมล หัวหน้าชุดปราบปรามยาเสพติดตำรวจภูธรจังหวัดราชบุรีให้สายลับติดต่อล่อซื้อเมทแอมเฟตามีนจำนวน 2,000 เม็ด จากนายปฏิภาณในราคา 190,000 บาท นายปฏิภาณนัดส่งมอบเมทแอมเฟตามีนที่บริเวณใต้สะพานลอยหน้าโรงเรียนวิสุทธรังสี เมื่อร้อยตำรวจเอกกมลและสายลับไปตามที่นัดหมาย พบถุงพลาสติกภายในมีเมทแอมเฟตามีนของกลาง จากนั้นสายลับนำถุงพลาสติกที่ใส่เงิน 190,000 บาท ซึ่งเตรียมใช้ล่อซื้อไปวางไว้ที่ตู้โทรศัพท์สาธารณะปากซอยท่าล้อ 12 ตามที่นายปฏิภาณแจ้งให้ทราบ ต่อมามีรถยนต์กระบะแล่นเข้าไปจอดในซอยท่าล้อ 12 แล้วจำเลยลงมาจากรถเดินเข้าไปหยิบถุงพลาสติกที่ใส่เงินจึงถูกเจ้าพนักงานตำรวจที่ดักซุ่มอยู่จับกุม ผลการตรวจพิสูจน์ของกลางเป็นเมทแอมเฟตามีนอันเป็นยาเสพติดให้โทษในประเภท 1 มีปริมาณคำนวณเป็นสารบริสุทธิ์ 51.369 กรัม
มีปัญหาวินิจฉัยตามฎีกาของจำเลยข้อแรกว่า จำเลยเป็นตัวการร่วมกระทำความผิดฐานจำหน่ายเมทแอมเฟตามีนหรือไม่ เห็นว่า ตามคำเบิกความของร้อยตำรวจเอกกมล จ่าสิบตำรวจอาคม และจ่าสิบตำรวจจงกล เจ้าพนักงานตำรวจผู้วางแผนจับกุม พยานโจทก์ได้ความตรงกันว่า เหตุการณ์ตั้งแต่เริ่มติดต่อล่อซื้อ นัดหมายสถานที่ส่งมอบเมทแอมเฟตามีนของกลางจนกระทั่งนัดหมายวิธีการและสถานที่ส่งมอบเงินสดที่ใช้ล่อซื้อ สายลับและนายปฏิภาณใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่พูดคุยตกลงกันโดยตรงเพียงสองคน ไม่ปรากฏว่าจำเลยมีส่วนร่วมติดต่อหรือรู้เห็นกับนายปฏิภาณในการตกลงเรื่องนี้ด้วย การนำเมทแอมเฟตามีนของกลางไปไว้ที่บริเวณใต้สะพานลอยหน้าโรงเรียนวิสุทธรังสีเพื่อส่งมอบให้สายลับ ก็ไม่ได้ความว่าจำเลยมีส่วนเกี่ยวข้อง ข้อเท็จจริงฟังได้แต่เพียงว่า หลังจากที่สายลับนำถุงพลาสติกที่ใส่เงินสดที่ใช้ล่อซื้อไปวางไว้ที่ตู้โทรศัพท์สาธารณะ จำเลยเดินทางมากับรถยนต์กระบะและลงจากรถเดินเข้าไปหยิบถุงพลาสติกดังกล่าวจึงถูกเจ้าพนักงานตำรวจที่ดักซุ่มอยู่จับกุมเท่านั้น ซึ่งการกระทำของจำเลยเกิดขึ้นภายหลังจากที่มีการนำถุงพลาสติกที่ใส่เงินสดไปวางไว้นานประมาณ 10 นาที ไม่มีลักษณะที่บ่งชี้ว่าจำเลยล่วงรู้สถานที่ส่งมอบเงินสดค่าซื้อเมทแอมเฟตามีนและไปเตรียมรอรับเงินบริเวณใกล้เคียงอยู่ก่อน พฤติการณ์ไม่เพียงพอที่จะฟังว่าจำเลยเป็นตัวการร่วมกับนายปฏิภาณในการจำหน่ายเมทแอมเฟตามีนของกลางโดยแบ่งหน้าที่กันทำ ส่วนสาเหตุที่จำเลยนั่งมากับรถยนต์กระบะและไปหยิบถุงพลาสติกที่ใส่เงินสด ซึ่งจำเลยไม่ได้ปฏิเสธความถูกต้องว่า นายอ้นและนายศิวกรหรือต้น ขับรถกระบะไปรับจำเลย แล้วนายอ้นขับรถพาจำเลยไปที่ซอยท่าล้อ 12 และให้จำเลยลงจากรถไปหยิบถุงพลาสติกโดยบอกว่าในถุงพลาสติกมีเงิน จำเลยเคยรับจ้างนายศิวกรไปเก็บเงินที่วางไว้ในตลาดผาสุกซึ่งเป็นเงินที่ได้จากการจำหน่ายเมทแอมเฟตามีน ซึ่งพฤติการณ์ที่นายศิวกรไปรับจำเลย และหลังจากนั้นเล็กน้อยจำเลยเดินทางไปเอาถุงพลาสติกที่ใส่เงินสดที่ใช้ล่อซื้อในลักษณะเดียวกับที่เคยรับจ้างนายศิวกรไปเก็บเงินที่ได้จากการจำหน่ายเมทแอมเฟตามีนมาก่อน ประกอบกับถุงพลาสติกใส่เงินสดถูกนำไปวางไว้ในที่สาธารณะโดยไม่มีคนดูแลเช่นนั้น เป็นเรื่องที่จำเลยย่อมเห็นได้ว่าผิดสังเกต มีเหตุทำให้เชื่อได้ว่าขณะจำเลยไปหยิบถุงพลาสติก จำเลยรู้ดีว่าเป็นการไปรับเงินสดค่าซื้อยาเสพติดให้โทษซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการจำหน่ายเมทแอมเฟตามีนของกลาง การจำหน่ายเมทแอมเฟตามีนของกลางยังไม่ขาดตอน การกระทำของจำเลยเป็นการช่วยเหลือหรือให้ความสะดวกในขณะที่ผู้อื่นกระทำความผิดฐานจำหน่ายเมทแอมเฟตามีน จำเลยจึงเป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิดฐานจำหน่ายเมทแอมเฟตามีนตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 มาตรา 15 วรรคหนึ่ง ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 86 ซึ่งต้องระวางโทษสองในสามส่วนของโทษที่กำหนดไว้สำหรับความผิดที่สนับสนุน แม้โจทก์จะฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยในฐานะเป็นตัวการร่วมกระทำความผิด แต่เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่าจำเลยเป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิด ศาลมีอำนาจพิพากษาลงโทษจำเลยตามข้อเท็จจริงที่พิจารณาได้ความตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 192 วรรคสอง
พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 มาตรา 15 วรรคหนึ่ง, 66 วรรคสาม ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 86, 53 ลงโทษจำคุก 33 ปี 4 เดือนและปรับ 1,600,000 บาท ลดโทษให้จำเลยตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 78 หนึ่งในสี่ คงจำคุก 25 ปี และปรับ 1,200,000 บาท นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 7