แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
สาลสั่งไห้ขายทอดตลาดที่ดินโจทยื่นคำร้องอ้างว่าเปนทายาทขอแบ่งมรดก สาลสั่งไห้ร้องขัดทรัพย์ขึ้นมา โจทมิได้ปติบัติตาม จนได้ขายที่ดินไปไปแล้ว โจทจะมาฟ้องเรียกค่าเสียหายถานละเมิดไม่ได้และถือว่าเปนกรนีที่โจทไช้สิทธิโดยไม่สุจริต อ้างดีกาที่ 376/2481
ย่อยาว
คดีนี้โจทฟ้องเรียกค่าเสียหายถานละเมิดจากจำเลย ซึ่งความเดิมมีหยู่ว่าจำเลยชนะความนายเผื่อนและได้ขอไห้สาลสั่งขายที่ดิน ๒ แปลงโดยมีชื่อนายเบน นางเขียวบิดามารดานายเผื่อนและโจทบางคนถือกัมสิทธิ โจทกับนายเผื่อนทำกินร่วมกันมาสาลชั้นต้นมีคำสั่งไห้ขายอดตลาด โจทยื่นคำร้องว่าเปนทายาทนายเนน นางเขียวขอบันส่วนมรดก สาลชั้นต้นสั่งไห้ยื่นคำร้องขัดทรัพย์เปนสำนวนขึ้นมา โจทหาได้จัดการประการไดไม่ เมื่อเจ้าพนักงานบังคับคดีได้ขายที่ดิน ๒ แปลงนี้แล้ว โจทจึงได้มาฟ้องเปนคดีนี้ขึ้น
สาลชั้นต้นพิจารนาแล้วพิพากสายกฟ้อง
โจทอุธรน์ สาลอุธรน์พิพากสากลับไห้จำเลยคืนหรือไช้ราคานาไนอัตราไร่ละ ๔๐ บาท ที่เปนส่วนของโจทไห้แก่โจท.
โจท จำเลยต่างดีกา สาลดีกาวินิฉัยว่าการที่จำเลยได้กะทำไปนั้นไม่เปนการละเมิดดังนัยแห่งคำพิพากสาดีกาที่ ๓๗๖/๒๔๘๑ และโจทซาบดีแล้วว่าทรัพย์รายนี้ สาลได้สั่งไห้ขายทอดตลาดและได้สั่งไห้โจทไปว่ากล่าวเปนคดีขัดทรัพย์ขึ้นมา โจทก็ไม่ทำ ย่อมเห็นได้ว่าโจทไช้สิทธิโดยไม่สุจริต จึงพิพากสากลับไห้ยกฟ้องโจท.