คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 9575/2544

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การที่ศาลจะนำโทษจำคุกที่รอการลงโทษจำเลยไว้มาบวกเข้ากับโทษจำคุกจำเลยในคดีหลังได้นั้น ต้องได้ความว่าจำเลยกระทำความผิดขึ้นอีกภายในระยะเวลาที่ศาลกำหนดไว้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56 เมื่อโจทก์บรรยายฟ้องคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 1718/2543 ของศาลชั้นต้น แต่เพียงว่าจำเลยต้องคำพิพากษาถึงที่สุดให้ลงโทษ จำคุก 1 ปี โดยมิได้บรรยายให้ชัดแจ้งว่าคดีดังกล่าวศาลชั้นต้นรอการลงโทษไว้หรือไม่ เป็นกำหนดระยะเวลาเท่าใด นับแต่วันที่ศาลพิพากษา แม้โจทก์จะบรรยายฟ้องต่อมาภายหลังจากที่ได้บรรยายฟ้องถึงคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 365/2543 ของศาลชั้นต้น โดยใช้ถ้อยคำว่า ภายในเวลาที่รอการลงโทษทั้งสองคดี จำเลยได้กระทำความผิดคดีนี้อีก ก็เป็นคำฟ้องที่ไม่อาจทำให้ทราบหรือเข้าใจได้ว่าคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 1718/2543 ของศาลชั้นต้นนั้น ศาลรอการ ลงโทษไว้มีกำหนดเวลาเท่าใด และจำเลยกระทำความผิดนี้อีกภายในระยะเวลาที่ศาลรอการลงโทษไว้ในคดีดังกล่าว อันจะมีผลให้ศาลมีอำนาจนำโทษจำคุกที่รอไว้มาบวกเข้ากับโทษจำคุกของจำเลยในคดีนี้ได้ ฟ้องโจทก์ในส่วนนี้ ไม่ต้องด้วยหลักเกณฑ์ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56 และ 58 แม้จำเลยให้การรับสารภาพก็ไม่อาจนำโทษจำคุกในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 1718/2543 ของศาลชั้นต้นมาบวกเข้ากับโทษจำคุกจำเลยในคดีนี้ได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้อง ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. ๒๕๒๒ มาตรา ๔, ๗, ๘, ๒๖, ๗๖, ๙๗ ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๕๘, ๙๒ เพิ่มโทษจำเลยตามกฎหมายและบวกโทษจำคุกที่รอการลงโทษไว้ในคดีก่อนทั้งสองคดีเข้ากับโทษในคดีนี้ด้วย
จำเลยให้การรับสารภาพและรับว่าเป็นบุคคลคนเดียวกับจำเลยในคดีที่โจทก์ขอให้เพิ่มโทษและบวกโทษ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. ๒๕๒๒ มาตรา ๒๖ วรรคหนึ่ง, ๗๖ วรรคหนึ่ง ลงโทษจำคุก ๒ เดือน เพิ่มโทษจำเลยกึ่งหนึ่งตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. ๒๕๒๒ มาตรา ๙๗ เป็นจำคุก ๓ เดือน จำเลยให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๗๘ คงจำคุก ๑ เดือน ๑๕ วัน บวกโทษจำคุกจำเลยที่รอการลงโทษไว้ในคดีก่อนทั้งสองคดีเข้ากับโทษในคดีนี้ด้วย รวมจำคุก ๑ ปี ๒ เดือน ๑๕ วัน
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ให้บวกโทษจำคุกจำเลยมีกำหนด ๑ เดือน ที่รอการลงโทษไว้ในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ ๓๖๕/๒๕๔๓ ของศาลแขวงพระนครใต้ เข้ากับโทษในคดีนี้ด้วย รวมจำคุก ๒ เดือน ๑๕ วัน ยกคำขอให้บวกโทษจำคุกจำเลยมีกำหนด ๑ ปี ในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ ๑๗๑๘/๒๕๔๓ ของศาลแขวงพระนครใต้ เข้ากับโทษในคดีนี้ นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า มีปัญหาข้อกฎหมายที่ต้องวินิจฉัยตามฎีกาโจทก์ว่า ศาลจะนำโทษจำคุก ๑ ปี ที่รอการลงโทษไว้ในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ ๑๗๑๘/๒๕๔๓ ของศาลแขวงพระนครใต้ มาบวกเข้ากับโทษจำคุกจำเลยในคดีนี้ได้หรือไม่ เห็นว่า การรอการลงโทษจำคุกตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๕๖ นั้น นอกจากต้องเป็นกรณีที่ศาลจะลงโทษจำคุกจำเลยในคดีนั้นไม่เกินสองปีแล้ว ศาลยังจะต้องกำหนดระยะเวลาเพื่อให้โอกาสจำเลยกลับตัวให้เป็นที่ชัดแจ้งและแน่นอน แต่ต้องไม่เกินห้าปีนับแต่วันที่ศาลพิพากษาด้วย ทั้งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๕๘ ในกรณีที่ศาลจะนำโทษจำคุกที่รอการลงโทษจำเลยไว้มาบวกเข้ากับโทษจำคุกจำเลยในคดีหลังได้นั้น จะต้องได้ความว่าจำเลยกระทำความผิดขึ้นอีกภายในระยะเวลาที่ศาลกำหนดไว้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๕๖ ดังกล่าวด้วย เมื่อคดีนี้โจทก์บรรยายฟ้องในส่วนของคดีอาญาหมายเลขแดงที่ ๑๗๑๘/๒๕๔๓ ของศาลแขวงพระนครใต้แต่เพียงว่า จำเลยต้องคำพิพากษาถึงที่สุดให้ลงโทษจำคุก ๑ ปี ฐานเสพกัญชาเมื่อวันที่ ๑๔ มิถุนายน ๒๕๔๓ โดยมิได้บรรยายฟ้องให้ชัดแจ้งมาด้วยว่าคดีดังกล่าวศาลแขวงพระนครใต้รอการลงโทษไว้หรือไม่ เป็นกำหนดระยะเวลาเท่าใดนับแต่วันที่ศาลพิพากษา ซึ่งแม้โจทก์จะได้บรรยายฟ้องต่อมาภายหลังจากที่ได้บรรยายฟ้องถึงคดีอาญาหมายเลขแดงที่ ๓๖๕/๒๕๔๓ ของศาลแขวงพระนครใต้ โดยใช้ถ้อยคำว่า ภายในเวลาที่รอการลงโทษทั้งสองคดี จำเลยได้กระทำความผิดคดีนี้อีก ก็เป็นคำฟ้องที่ไม่อาจ ทำให้ทราบหรือเข้าใจได้ว่าคดีอาญาหมายเลขแดงที่ ๑๗๑๘/๒๕๔๓ ของศาลแขวงพระนครใต้นั้น ศาลรอการลงโทษไว้ มีกำหนดเวลาเท่าใด และจำเลยมากระทำความผิดคดีนี้อีกภายในระยะเวลาที่ศาลรอการลงโทษไว้ในคดีดังกล่าว อันจะมีผลทำให้ศาลมีอำนาจนำโทษจำคุก ๑ ปี มาบวกเข้ากับโทษจำคุกของจำเลยในคดีนี้ได้ เมื่อฟ้องโจทก์ในส่วนนี้ไม่ต้องด้วยหลักเกณฑ์ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๕๖ และ ๕๘ แล้ว แม้จำเลยจะให้การรับสารภาพก็ไม่อาจนำโทษจำคุก ๑ ปี ในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ ๑๗๑๘/๒๕๔๓ ของศาลแขวงพระนครใต้ มาบวกเข้ากับโทษจำคุกจำเลยในคดีนี้ได้ ศาลอุทธรณ์ยกคำขอในส่วนนี้ชอบแล้ว ฎีกาของโจทก์ฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน.

Share