คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 954/2543

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การปิดหมายจะกระทำด้วยวิธีใด เช่น การใช้เชือกผูกการตอกตะปู การแปะติดไว้หรือวิธีอื่นใดตามที่เห็นสมควรก็ได้ แต่จะต้องแสดงไว้ในที่แลเห็นได้ง่าย ณ ภูมิลำเนาหรือสำนักทำการงานของคู่ความหรือบุคคลผู้มีชื่อระบุไว้ในคำคู่ความหรือเอกสารนั้น เพื่อให้ผู้รับแจ้งทราบว่าตนได้ถูกฟ้องเป็นคดีหรือมีกระบวนพิจารณาใดที่จะต้องปฏิบัติหรือรับทราบ ก็ถือได้ว่าเป็นการปิดหมายโดยชอบตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 79

ย่อยาว

คดีสืบเนื่องมาจากโจทก์ทั้งสองฟ้องขอให้บังคับจำเลยชำระเงินจำนวน1,851,690 บา และเงินเพิ่มอากรขาเข้าอัตราร้อยละ 1 ต่อเดือนหรือเศษของเดือนจากต้นเงินอากรขาเข้า 700,000 บาท เป็นรายเดือนนับถัดจากวันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ทั้งสอง จำเลยขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณา ศาลภาษีอากรกลางพิพากษาให้จำเลยชำระเงินจำนวน 1,851,690 บาท แก่โจทก์ทั้งสอง และเงินเพิ่มอากรขาเข้าอัตราร้อยละ 1 ต่อเดือนหรือเศษของเดือนจากต้นเงิน 700,000 บาท เป็นรายเดือนนับถัดจากวันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จ

จำเลยยื่นคำร้องขอให้พิจารณาใหม่ อ้างว่าไม่จงใจขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณา เพราะไม่มีพนักงานของจำเลยคนใดพบเห็นหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องรวมทั้งหมายนัดสืบพยานโจทก์ จำเลยไม่ต้องรับผิดตามฟ้องของโจทก์ หากศาลอนุญาตให้พิจารณาใหม่และรับฟังพยานหลักฐานของจำเลยเนื่องจากจำเลยไม่ทราบเรื่องการทำปลอมใบขนสินค้าขาเข้าและใบสั่งปล่อยสินค้าและมิได้มีส่วนเกี่ยวข้อง

โจทก์ทั้งสองยื่นคำคัดค้านว่า ขอให้ยกคำร้อง

ศาลภาษีอากรกลางไต่สวนแล้ว มีคำสั่งให้ยกคำร้อง

จำเลยอุทธรณ์ต่อศาลฎีกา

ศาลฎีกาแผนกคดีภาษีอากรวินิจฉัยว่า คดีมีปัญหาวินิจฉัยว่าจำเลยมีสิทธิขอพิจารณาใหม่หรือไม่ ข้อเท็จจริงเชื่อได้ว่า โจทก์ได้ส่งหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องไปยังสำนักทำการงานของจำเลยถูกต้องแล้ว ส่วนหมายนัดสืบพยานโจทก์นั้นนายสรวุฒิ พนักงานเดินหมายอีกคนหนึ่งเป็นผู้ส่ง ได้ความว่านายสรวุฒินำหมายนัดสืบพยานโจทก์ไปส่งให้แก่จำเลยเมื่อวันที่ 24 กันยายน 2541 โดยปิดหมายไว้ในที่เปิดเผยด้วยการใช้เชือกผูกไว้ที่ประตูรั้ว นายสรวุฒิเป็นผู้ที่นำหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องไปส่งให้แก่จำเลยครั้งแรก แต่ส่งไม่ได้และได้ทำแผนที่โดยสังเขปบริษัทจำเลยไว้ด้านหลังรายงานการเดินหมายด้วย จึงเชื่อได้ว่าในการส่งหมายนัดสืบพยานโจทก์ โจทก์ได้ไปส่งยังสำนักทำการงานของจำเลยเช่นกัน นอกจากนี้ในการส่งหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องและหมายนัดสืบพยานโจทก์จะเห็นได้ว่าทั้งนายปิยะและนายสรวุฒิได้ปิดหมายไว้ที่หน้าบริษัทจำเลยอันเป็นสำนักทำการงานของจำเลยตามหมาย โดยเฉพาะหมายนัดสืบพยานโจทก์นายสรวุฒิได้ใช้เชือกผูกไว้ที่ประตูรั้วยากที่จะหลุดหายหรือมีผู้เอาไป ซึ่งการปิดหมายจะกระทำด้วยวิธีใด เช่น การใช้เชือกผูกการตอกตะปู การแปะติดไว้ หรือวิธีอื่นใดตามที่เห็นสมควรก็ได้ แต่จะต้องแสดงไว้ในที่แลเห็นได้ง่าย ณ ภูมิลำเนาหรือสำนักทำการงานของคู่ความหรือบุคคลผู้มีชื่อระบุไว้ในคำคู่ความหรือเอกสารนั้น เพื่อให้ผู้รับแจ้งทราบว่าตนได้ถูกฟ้องเป็นคดีหรือมีกระบวนพิจารณาใดที่จะต้องปฏิบัติหรือรับทราบ ก็ถือได้ว่าเป็นการปิดหมายโดยชอบตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 79 ส่วนที่จำเลยอ้างว่านายสุชาติ ผ่องผุด หัวหน้าฝ่ายบุคคลและธุรการของจำเลยไม่พบหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องและหมายนัดสืบพยานโจทก์นั้นเป็นเพียงการกล่าวอ้างลอย ๆ ขาดพยานหลักฐานอื่นสนับสนุน ไม่มีน้ำหนักในการรับฟัง ข้อเท็จจริงฟังได้ว่าพนักงานเดินหมายได้ส่งหมายเรียกและสำเนาคำฟ้อง รวมทั้งหมายนัดสืบพยานโจทก์ให้แก่จำเลยโดยชอบแล้ว การขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณาของจำเลยจึงเป็นไปโดยจงใจและไม่มีเหตุอันสมควรที่จะพิจารณาใหม่

พิพากษายืน

Share