คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 932/2482

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ปัญหาที่อ้างว่าเป็นข้อกฎหมายซึ่งกล่าวมาในฎีกานั้น มิได้ยกข้อกฎหมายขึ้นอ้างอิงหรืออธิบายให้แจ้งชัดว่าเป็นข้อกฎหมายที่ผู้ฎีกาควรจะชนะคดีโดยประการใดเป็นแต่ยกเป็นปัญหาขึ้นถาม แต่มิได้อธิบายปัญหาที่ยกขึ้นถามนั้นอย่างไร ดังนี้เป็นฎีกาที่ไม่ถูกต้องตามประมวลวิธีพิจารณาความแพ่ง ม.249 ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย

ย่อยาว

ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ฟังว่า ที่นารายที่โจทก์ฟ้องขอแบ่งจากจำเลยถึงครึ่งหนึ่งนี้ เป็นของโจทก์แต่เพียง ๙ ไร่ ส่วนอีก ๒๐ ไร่ ๔๔ ตารางวาเป็นส่วนของจำเลย จำเลยได้ครอบครองส่วนของตนมา ๒๔ – ๒๕ ปีแล้ว
แต่ศาลชั้นต้นเห็นว่าในท้องสำนวนไม่มีแผนที่พิพาทหรือพะยานระบุเขตต์แจ้งชัดพอจะแบ่งให้โจทก์ได้ จึงพิพากษายกฟ้องโจทก์ศาลอุทธรณ์เห็นว่าจำเลยรับว่าโจทกืครอบครองมา ๙ ไร่ ทางทิศเหนือติดที่ดินหมายเลขที่ ๓๓ – ๓๕ – ๔๐ และมีเขตต์คันเป็นส่วนสัดพอจะแบ่งได้แล้ว จึงพิพากษาแก้ให้แบ่งให้แก่โจทก์ไปเป็นจำนวน ๙ ไร่นั้น
โจทก์ฎีกาศาลชั้นต้นรับฎีกาแต่ฉะเพาะในปัญหาข้อกฎหมาย ศาลฎีกาเห็นว่า ปัญหาที่อ้างว่าเป็นข้อกฎหมายซึ่งกล่าวมาในฎีกาทุกทุกข้อนั้น มิได้ยกข้อกฎหมายขึ้นอ้างอิงหรืออธิบายให้แจ้งชัดว่า เป็นข้อกฎหมายที่โจทกืควรจะชนะโดยประการใด เป็นแต่กล่าวยกเป็นปัญหาขึ้นถาม แต่แล้วก็มิได้อธิบายปัญหาที่ยกขึ้นถาม แต่แล้วก็มิได้อธิบายปัญหาที่ยกขึ้นถามนั้นอย่างไร จึงเห็นว่าฎีกาโจทก์ไม่ถูกต้องตามประมวลวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา ๒๔๙ ให้ยกฎีกาโจทก์เสีย

Share