แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
สารวัตรศึกษาไม่ใช่เจ้าพนักงานผู้มีหน้าที่ออกบัตรประจำตัวประชาชน ฉะนั้นแม้จะรับสินบนหรือจดแจ้งความเท็จในการทำบัตรนั้น ก็ไม่เป็นผิดตามกฎหมายลักษณะอาญามาตรา 138,230
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยที่ ๑ รับราชการเป็นสารวัตรศึกษาธิการอำเภอ จำเลยที่ ๒ เป็นพนักงานเทศบาลสามัญ เทศบาลธนบุรี และเป็นผู้ช่วยนายทะเบียนท้องถิ่นแขวงอำเภอธนบุรี มีหน้าที่รับแจ้งในเรื่องเกี่ยวด้วยทะเบียนสำมะโนครัว ทะเบียนบ้านรับแจ้งและจดทะเบียน ในการที่บุคคลย้ายที่อยู่เข้าออกคนเกิดคนตาย การปลูกบ้านและรื้อบ้านและบัตรประจำตัวประชาชน เมื่อวันที่ ๒๒ ถึงวันที่ ๒๘ พ.ค.๒๔๙๘ เวลากลางวัน จำเลยสมคบกันกระทำการทุจริตต่อหน้าที่ราชการ บังคับเรียกและรับเงินสินบนไว้จากนายสานกับนายหยาดคนละ ๒๐๐ บาท เป็นอาณาประโยชน์ของตนกับพวก ซึ่งมิควรจะรับไว้โดยชอบด้วยกฎหมาย ในการที่นายสานกับนายหยาดมาขอบัตรประจำตัวประชาชน
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยทั้ง ๒ ผิดตาม กฎหมายลักษณะอาญามาตรา ๒๓๐,๑๓๘,๖๕ ที่แก้ไขแล้วมาตรา ๓ รวมกะทงลงโทษจำคุกคนละ ๖ ปี ลดฐานสมรู้ให้จำเลยที่ ๑ อีก ๑ ใน ๓ จำคุกจำเลยที่ ๑ ไว้ ๔ ปี ลดตาม มาตรา ๕๙ คนละ ๑ ใน ๓ คงจำคุกจำเลยที่ ๑ กำหนด ๒ ปี ๘ เดือน จำเลยที่ ๒ กำหนด ๔ ปี
จำเลยที่ ๒ ผู้เดียวอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้ยกฟ้องโจทก์รวมถึงจำเลยที่ ๑ ด้วย
โจทก์ฎีกา ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ตามพยานหลักฐานโจทก์ไม่ปรากฎว่าจำเลยที่ ๒ ได้เข้าร่วมตกลงรับทำการช่วยเหลือในการทำบัตรประชาชน จำเลยที่ ๒ จึงไม่มีความผิด ส่วนจำเลยที่ ๑ ไม่มีหน้าที่ในการออกบัตรประจำตัวประชาชน จึงไม่เป็นเจ้าพนักงานผู้มีหน้าที่ แม้จำเลยที่ ๑ จะได้เข้าช่วยเหลือในการทำบัตรประจำตัวประชาชนกับได้รับเงินมา ก็ไม่มีความผิดฐานสมคบหรือสมรู้ด้วยเจ้าพนักงานรับสินบนและจดข้อความเท็จ พิพากษายืน