แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
จำเลยเป็นเสมียนเทศบาลสังกัดในแผนกสมุหบัญชี มีหน้าที่รับเงินภาษีอากรต่าง ๆ ที่ผู้มีหน้าที่นำมาชำระ ว.ฝากเงินจำเลยมาชำระค่าภาษีโรงเรือน จำเลยเอาเงินใช้เสียแล้วใช้ปลายขั้วแบบพิมพ์ใบเสร็จรับเงินของเทศบาลที่เหลือใช้จากปีก่อนมากรอกข้อความว่า ว.ได้ชำระภาษีโรงเรือนแล้ว จำเลยลงชื่อตนเองในช่องผู้รับเงินและพนักงานเก็บภาษี ซึ่งจำเลยจะเซ็นชื่อช่องพนักงานเก็บภาษีไม่ได้ เพราะไม่ได้รับแต่งตั้งเป็นพนักงานเก็บภาษี ดังนี้ เป็นการแสดงชัดแจ้งว่าเจตนากระทำเทียมให้หลงเชื่อว่าเป็นใบเสร็จอันแท้จริง จำเลยย่อมมีผิดฐานปลอมหนังสือตามมาตรา 225.
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องหาว่า จำเลยปลอมใบเสร็จรับเงินค่าภาษีโรงเรือนและที่ดินของเทศบาลตำบลหาดใหญ่ ประจำปี พ.ศ. ๒๔๙๐ , ๒ ฉะบับ โดยจำเลยใช้ปลายขั้วแบบพิมพ์ใบเสร็จรับเงินของเทศบาลที่เหลือใช้มาจากปีก่อนกรอกข้อความว่านายวุ่น โปหิ้นได้ชำระค่าภาษีโรงเรือนแล้ว ๑๕๔๕ บาท แล้วจำเลยเซ็นชื่อของตนเองปลอมในช่องสมุหบัญชีและปลอมใช้เป็นใบเสร็จที่แท้จริงมอบให้นายวุ่น โปหิ้นไป ขอให้ลงโทษตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา ๒๒๓,๒๒๔,๒๒๕ ที่แก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ. ๒๔๗๕ (ฉะบับที่ ๕) มาตรา ๓ จำเลยต่อสู้ว่าการเขียนใบเสร็จ จำเลยได้ลงชื่อของจำเลย หาใช่ปลอมไม่ ศาลชั้นต้นเห็นว่าการที่จำเลยกรอกข้อความในแบบพิมพ์ที่เสียภาษีและลงลายมือชื่อของจำเลย มิได้เพิ่มเติมหรือตัดทอนข้อความในหนังสือที่แท้จริง และจำเลยมิได้ปลอมลงลายมือใคร การกระทำของจำเลยไม่เป็นผิดฐานปลอมหนังสือ พิพากษายกฟ้อง มีผู้พิพากษานายหนึ่งทำความเห็นแย้งว่า จำเลยควรมีความผิดฐานปลอมหนังสือ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา,
ศาลฎีกาได้วินิจฉัยโดยที่ประชุมใหญ่ว่า โจทก์นำสืบได้ว่า จำเลยไม่มีอำนาจเซ็นชื่อในช่องพนักงานเก็บภาษี เพราะจำเลยไม่ได้รับแต่งตั้งเป็นพนักงานเก็บภาษี แต่จำเลยได้ลงลายมือชื่อช่องพนักงานผู้รับเงินและลงในช่องพนักงานเก็บภาษี ทั้งที่จำเลยรับอยู่ว่าการที่กระทำดังนั้น เพื่อลวงนายวุ่น โปหิ้น การกระทำของจำเลยจึงเป็นการเท็จอยู่ในตัว กล่าวคือเท็จตรงที่จำเลยมิได้รับแต่งตั้งเป็นพนักงานเก็บภาษี แต่จำเลยลงลายมือชื่อว่าเป็นพนักงานเก็บภาษี เป็นการแสดงชัดแจ้งว่า เจตนากระทำเทียมให้หลงเชื่อว่า เป็นใบเสร็จอันแท้จริง จำเลยจึงมีผิดฐานปลอมหนังสือ
พิพากษากลับ จำคุกจำเลย ๒ ปีตามมาตรา ๒๒๔,๕๙