คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 883/2473

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

อย่างไรเรียกว่า “รับมอบหมาย ฯ” ตามมาตราข้างบนนี้ โจทก์ขายโคให้จำเลยและมอบโคให้แล้ว แต่ยังชำระราคากันไม่หมด โดยตกลงกันว่ากรรมสิทธิยังไม่เปลี่ยนจนกว่าจะใช้ราคาเสร็จ ต่อมาจำเลยขายโคนี้ไปเอาเงินเสียดังนี้ คดีเปนผิดสัญญา ไม่มีมูลในทางอาญา สัญญาซื้อขาย กรรมสิทธิ

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าโจทก์ได้ขายเกวียนและโค ๑ คู่ให้จำเลยเปนเงิน ๒๙๐ บาท จำเลยชำระเงินแล้ว ๑๙๐ บาท ยังค้างอีก ๑๐๐ บาท โจทก์มอบเกวียนและโคให้จำเลยไป โดยตกลงกันว่าโคคู่นี้โจทก์จะให้จำเลยเปนเจ้าของเด็ดขาดต่อเมื่อจำเลยใช้เงิน ๑๐๐ บาทแล้ว ต่อมาจำเลยขายโคและเกวียนนั้นแล้วเอาเงินเปนประโยชน์ตนเสีย จึงขอให้ลงโทษจำเลยตาม ม.๓๑๔
ศาลล่างทั้ง ๒ เห็นว่าคดีเปนสัญญาขายของเชื่อไม่มีมูลในทางอาญา ให้ยกฟ้อง
โจทก์ฎีกาข้อกฎหมายว่า จำเลยยังไม่มีกรรมสิทธิในโค เพราะยังไม่ได้โอนทะเบียน จำเลยเปนแต่ผู้รับมอบและรักษาโคโจทก์ไว้ จำเลยควรมีผิดตาม ม.๓๑๔
ศาลฎีกาเห็นว่า ฟ้อโจทก์+ความขัดว่าได้ขายโคนี้ให้จำเลย โจทก์จึงได้มอบโคให้จำเลยไป แม้การโอนโคยังมิได้ทำให้ถูกต้องตามกฎหมายก็ดร คดีไม่เข้าอยู่ในบทที่ว่า “ผู้ใดรับมอบหมายให้เปนผู้ดูแลรักษาหรือเก็บทรัพย์ หรือได้รับมอบหมายทรัพย์ไว้เพื่อให้ใช้โดยฉะเพาะในการอย่างได้อย่างหนึ่ง ” ตาม ม.๓๑๔ พฤติการณ์ที่จำเลยประพฤติเปนเพียงผิดสัญญา ไม่มีมูในคดีอาญา จึงตัดสินยืนตามศาลล่าง

Share