แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
การสืบพะยาน +การพิจารณาพิพากษาคดีคราวก่อนที่ศาลสูงได้ยกสืบเพราะไม่ถูกต้องด้วยพระธรรมนูญนั้น คู่ความจะขอให้ศาลถือเอาคำให้การ+ของพะยานในคราวก่อนนั้น+วินิจฉัยในการพิจารณาคราวใหม่นี้เป็นการไม่ถูกต้องด้วยวิธีพิจารณา ต้อง+ว่าคดีโจทก์ไม่มีหลักฐานจะลงโทษจำเลยได้
ย่อยาว
คดีนี้โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามมาตรา ๑๓๖-๒๗๐-๓๐๓ ในการพิจารณาคราวแรกปรากฎว่าผู้พิพากษาศาลเดิมนั่งทำการพิจารณาแลพิพากษาคดีแต่นายเดียว ศาลอุทธรณ์เห็นว่าเป็นการไม่ชอบด้วยพระธรรมนูญศาลยุตติธรรม จึงให้ศาลเดิมพิจารณาแลพิพากษาคดีใหม่
ในคราวพิจารณาใหม่ โจทก์จำเลยทั้ง ๒ ฝ่ายแถลงไม่ขอสืบพะยานใหม่ ขอให้ศาลวินิจฉัยตามคำให้การพะยานของทั้ง ๒ ฝ่ายที่ได้สืบมาแล้ว และไม่ติดใจสืบพะยานต่อไป
ศาลเดิมเห็นว่าพะยานโจทก์เบิกความแตกต่างกันให้ยกฟ้อง
ศาลอุทธรณ์เห็นว่าโจทก์จำเลยจะขอรับรองเอาคำพะยานที่มีอยู่โดยไม่ชอบด้วยกฎหมายเพื่อให้ศาลวินิจฉัยนั้นเป็นการใช้ไม่ได้ ในคดีนี้ต้องถือว่าโจทก์ไม่มีพะยานสืบจึงพิพากษายืนตามศาลเดิม
ศาลฎีกาเห็นว่า การที่คู่ความไม่ได้นำพะยานมาเบิกความในการพิจารณาครั้งใหม่นี้เป็นแต่ขอให้ศาลถือเอาคำพะยานที่ให้การไว้คราวก่อน เห็นว่าเป็นการไม่ชอบด้วยคำพิพากษาศาลอุทธรณ์แลไม่ถูกต้องด้วยวิธีพิจารณา เพราะศาลอุทธรณ์ให้พิจารณาใหม่แลในการพิจารณาคดีนั้นการสืบพะยานบุคคลต้องนำตัวพะยานมาเบิกความแลไม่ติดใจสืบพะยานต่อไป คดีโจทก์ก็เป็นอันไม่มีหลักฐานจะฟังลงโทษจำเลยได้ จึงพิพากษายืนตามศาลล่าง