คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 875/2491

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การต่างกันในข้อเท็จจริงที่ปรากฏในทางพิจารณากับที่ปรากฏในฟ้อง ซึ่งเป็นเหตุให้ศาลต้องยกฟ้องตาม ป.ม.วิ.อาญา มาตรา 192 วรรค 2 นั้น จะต้องเป็นข้อเท็จจริงที่เป็นสาระสำคัญในคำฟ้อง
ในคดีลักทรัพย์ การแตกต่างเพียงคำนำหน้าชื่อเจ้าทรัพย์ว่า “นาย” หรือ “นาง” นั้น เป็นข้อปลีกย่อย หาทำให้จำเลยหลงผิดในการต่อสู้คดีอย่างใดไม่

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องหาว่าจำเลยลักสุกรของนายยู่ล่าง แซ่โค้ว ไป ๓ ตัว ขอให้ลงโทษ ทางพิจารณาได้ความว่า จำเลยทำผิดจริงดังฟ้อง แต่ชื่อเจ้าทรัพย์ความจริงเป็น นางยู่ล่าง แซ่โค้ว ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาต้องกันให้ลงโทษจำเลยตาม ก.ม. ลักษณะอาญามาตรา ๒๙๔ จำคุก ๑ ปี
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า การต่างกันในข้อเท็จจริงที่ปรากฏในทางพิจารณากับที่ปรากฏในฟ้อง ซึ่งจะเป็นเหตุให้ศาลต้องยกฟ้องตาม ป.ม.วิ.อาญา มาตรา ๑๙๒ วรรค ๒ ต้องเป็นข้อเท็จจริงในสาระสำคัญในคำฟ้อง การแตกต่างกันเพียงคำนำหน้าชื่อเจ้าทรัพย์ว่า “นาย” หรือ “นาง” เป็นข้อปลีกย่อย หาทำให้จำเลยหลงผิดในการต่อสู้คดีอย่างใดไม่
พิพากษายืน

Share