แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ผู้ขายสินค้าในต่างประเทศว่าจ้างบริษัท ฟ.และบริษัทว. ซึ่งเป็นบริษัทอยู่ในต่างประเทศ ทำการขนส่งสินค้าจากต่างประเทศมาให้ผู้ซื้อในประเทศไทย บริษัท ฟ.และบริษัท ว. ไม่มีสาขาในประเทศไทย จึงว่าจ้างจำเลยทำการขนถ่ายสินค้าจากเรือเดินทะเลมาที่หน้าการท่าเรือแห่งประเทศไทย จำเลยเป็นผู้ติดต่อกับการท่าเรือแห่งประเทศไทยขออนุญาตนำเรือเข้าจอดเทียบท่าและจัดการหาคนหรือเครื่องมือขนถ่ายสินค้าออกจากเรือเดินทะเลนำไปที่หน้าท่าของการท่าเรือแห่งประเทศไทยจำเลยมีหน้าที่ลงแจ้งความในหนังสือพิมพ์ให้ผู้รับตราส่งทราบและผู้รับตราส่งต้องนำใบตราส่งมาแลกกับใบปล่อยสินค้าซึ่งจำเลยเป็นผู้ออก เพื่อนำไปรับสินค้าจากคลังสินค้าของการท่าเรือแห่งประเทศไทย การดำเนินการของจำเลยดังกล่าวมีลักษณะร่วมกันขนส่งสินค้ากับบริษัท ฟ.และบริษัทว. และเป็นการขนส่งหลายทอดโดยจำเลยเป็นผู้ขนส่งทอดสุดท้าย จำเลยจึงต้องรับผิดในการสูญหายหรือบุบสลายของสินค้าที่ขนส่ง ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 618
ปัจจุบันกฎหมายและกฎข้อบังคับของประเทศไทยว่าด้วยการรับขนของทางทะเลยังไม่มี การฟ้องให้ผู้ขนส่งรับผิดในการที่ของสูญหายหรือบุบสลายจึงมีอายุความ 10ปี นับแต่ผู้รับตราส่งได้รับสินค้า ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 164
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า ผู้ขายสินค้าในต่างประเทศว่าจ้างบริษัทฟูจิวาร่าไลน์จำกัด และบริษัทวันฟุงสตีมชิป จำกัด ขนส่งสินค้ามาให้ผู้ซื้อในประเทศไทยบริษัททั้งสองดังกล่าวไม่มีสาขาในประเทศไทย จึงมอบให้จำเลยเป็นผู้ขนส่งร่วมอีกทอดหนึ่ง โดยเป็นผู้ขนส่งสินค้าจากเรือเดินทะเลของบริษัททั้งสองไปส่งมอบให้แก่ผู้รับตราส่งในประเทศไทย ผู้ซื้อในประเทศไทยได้เอาประกันภัยสำหรับความเสียหายที่จะเกิดขึ้นแก่สินค้าในระหว่างขนส่งทางทะเลไว้แก่โจทก์ครั้นเรือบรรทุกสินค้าเข้าเทียบท่าการท่าเรือแห่งประเทศไทย ปรากฏว่าสินค้าสูญหายและเสียหายบางส่วน ผู้ซื้อสินค้าได้ทวงถามให้จำเลยใช้ค่าเสียหาย แต่จำเลยเพิกเฉย โจทก์จึงใช้ค่าสินไหมทดแทนให้แก่ผู้ซื้อแล้วรับช่วงสิทธิฟ้องจำเลยให้ใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์
จำเลยให้การว่า จำเลยมิได้เป็นผู้ขนส่งร่วม แต่เป็นเพียงตัวแทนรับจองระวางเรือและจัดหาลูกค้าให้แก่บริษัททั้งสองเท่านั้น จำเลยไม่มีนิติสัมพันธ์กับผู้รับตราส่ง โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้องจำเลย ฟ้องโจทก์เคลือบคลุมและขาดอายุความ
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาให้จำเลยใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ที่จำเลยฎีกาว่าจำเลยเป็นเพียงตัวแทนของบริษัทฟูจิวาร่าไลน์ จำกัด และบริษัทวันฟุงสตีมชิป จำกัด ไม่ใช่ผู้ร่วมขนส่งหรือผู้ขนส่งทอดสุดท้ายจึงไม่ต้องร่วมรับผิดใช้ค่าเสียหาย โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องจำเลยนั้น เห็นว่า การขนส่งที่จะให้ถึงผู้รับตราส่งที่กรุงเทพมหานครตามใบตราส่งนั้น จะปฏิบัติโดยวิธีใดย่อมเป็นวิธีการในเชิงประกอบธุรกิจของผู้ขนส่งเอง จำเลยรับว่า เมื่อเรือเดินทะเลของบริษัททั้งสองในต่างประเทศมาถึงกรุงเทพมหานครแล้ว จำเลยเป็นผู้จัดการหาคนหรือเครื่องมือขนถ่ายสินค้าออกจากเรือเดินทะเลนำไปที่หน้าท่าของการท่าเรือแห่งประเทศไทย ยิ่งกว่านั้นจำเลยยังต้องแจ้งความในหนังสือพิมพ์ให้ผู้รับตราส่งทราบ และผู้รับตราส่งต้องนำใบตราส่งมาแลกกับใบปล่อยสินค้าซึ่งจำเลยเป็นผู้ออกเพื่อรับสินค้าจากคลังสินค้าของการท่าเรือแห่งประเทศไทยอันเป็นวิธีการของการรับขนส่งตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 615 และมาตรา 622 การดำเนินงานในการขนส่งสินค้านี้ รับช่วงปฏิบัติกันเป็นทอด ๆ จนสินค้าถึงผู้รับตราส่ง จึงถือได้ว่ามีลักษณะร่วมกันในการขนส่งสินค้า และเป็นการขนส่งหลายทอดโดยจำเลยเป็นผู้ขนส่งทอดสุดท้าย จำเลยจึงต้องร่วมรับผิดในการสูญหายหรือบุบสลายของสินค้าที่ขนส่ง ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 618การที่บริษัทรับขนในต่างประเทศเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายในการขนถ่ายสินค้าจากเรือเดินทะเลไปยังท่าเรือแห่งประเทศไทยก็ดี จำเลยได้รับค่าบำเหน็จตอบแทนในการปฏิบัติหน้าที่ของตนก็ดี เป็นเรื่องวิธีดำเนินงานและแบ่งผลประโยชน์ระหว่างผู้ร่วมงานด้วยกัน ไม่ทำให้จำเลยเป็นตัวแทนของบริษัทในต่างประเทศและไม่ต้องรับผิด
ที่จำเลยฎีกาว่า จะต้องนำอายุความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 624 มาใช้บังคับนั้น เห็นว่า ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 609 วรรคท้ายบัญญัติว่า “รับขนของทางทะเลท่านให้บังคับตามกฎหมายและกฎข้อบังคับว่าด้วยการนั้น” แต่ปัจจุบันกฎหมายและกฎข้อบังคับของประเทศไทย ว่าด้วยการรับขนของทางทะเลยังไม่มี ฉะนั้น อายุความฟ้องร้องคดีนี้จึงมีกำหนด 10 ปี นับแต่ผู้รับตราส่งรับสินค้าตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 164
พิพากษายืน