คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 869/2497

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

สัญญาขายฝากจดทะเบียนที่อำเภอ ฉบับต้นขั้วมีกำหนดไถ่ 2 ปี แต่เจ้าหน้าที่ผู้เขียนฉบับที่ให้ผู้ซื้อยึดถือไว้ผิดไปเป็น 1 ปีผู้ซื้อจะฉวยโอกาสที่เจ้าหน้าที่เขียนผิดไม่ยอมให้ผู้ขายฝากไถ่คืนใน 2 ปีไม่ได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม 2492 โจทก์ได้ขายฝากบ้าน(เรือน) เลขที่ 141 และ 141/1 ของโจทก์ ซึ่งปลูกอยู่ในที่ดินของกองรักษาที่หลวงถนนบูรณศิริ ไว้กับจำเลย ณ ที่ว่าการอำเภอพระนครเป็นเงิน 10,000 บาท กำหนดไถ่ถอนใน 2 ปี แต่โจทก์ยังครอบครองเรือนทั้ง 2 หลังอยู่ เมื่อเดือนมีนาคม 2494 โจทก์ได้ขอไถ่ถอนเรือนจากจำเลย จำเลยไม่ยอมให้ไถ่ถอน จึงขอให้บังคับจำเลยยอมให้โจทก์ไถ่ถอนเรือนเลขที่ 141 และ 141/1 ในราคา 10,000 บาท

จำเลยให้การต่อสู้และฟ้องแย้งว่า จำเลยได้รับซื้อเรือนพิพาทไว้จากโจทก์กำหนดไถ่ถอนคืนภายใน 1 ปี โจทก์ไม่ไถ่ถอนภายในกำหนดจำเลยจึงได้กรรมสิทธิ์ โจทก์ไม่มีสิทธิที่จะอยู่ในเรือนพิพาทต่อไปขอให้ยกฟ้อง และขับไล่โจทก์และบริวาร

โจทก์ให้การแก้ฟ้องแย้งว่า โจทก์ได้ขายฝากเรือนพิพาทไว้แก่จำเลย 10,000 บาท โดยตกลงไถ่ถอนคืนภายในกำหนด 2 ปี หากมีการแก้ไขสัญญาเรื่องกำหนดเวลาไถ่ถอน ก็เป็นการแก้ไขสัญญาที่จำเลยยึดถืออยู่ หาใช่ฉบับซึ่งอยู่ที่เจ้าพนักงานไม่ โจทก์ชอบที่จะขอไถ่ถอนได้ภายในกำหนด จำเลยไม่มีสิทธิฟ้องแย้งและขอให้ขับไล่โจทก์

ศาลแพ่งฟังว่า โจทก์จำเลยตกลงกันขายฝากเรือนพิพาทมีกำหนดเวลาไถ่ถอนคืนภายใน 2 ปี จึงพิพากษาให้โจทก์ไถ่ถอนการขายฝากเรือนพิพาทในราคา 10,000 บาท จากจำเลย ให้ยกฟ้องแย้งจำเลยและให้จำเลยเสียค่าธรรมเนียมค่าทนายความ 300 บาท แทนโจทก์

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน และให้จำเลยเสียค่าทนายความ 100 บาทแทนโจทก์

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาได้ฟังคำแถลงการณ์ทนายจำเลยและปรึกษาคดีนี้ คดีมีปัญหาโต้เถียงกันในข้อเท็จจริงว่า โจทก์จำเลยได้ตกลงขายฝากเรือนพิพาทกันมีกำหนดเวลา 1 ปี หรือ 2 ปี

ศาลฎีกาได้พิจารณาหลักฐานพยานคู่ความโดยตลอดแล้ว โจทก์ว่าโจทก์ได้ยื่นคำร้องต่อกรมการอำเภอ ขอฝากขายเรือนพิพาทไว้แก่จำเลยมีกำหนดเวลา 2 ปี นายเล็กปลัดอำเภอเบิกความรับรองคำโจทก์และว่าได้ประกาศคำร้องโจทก์ตามระเบียบ นายประสงค์พยานโจทก์ผู้เขียนสัญญาขายฝาก เบิกความว่า พยานเป็นผู้เขียนสัญญาขายฝากเรือนพิพาท ทะเบียนต้นขั้วทางอำเภอลงว่า 2 ปี แต่สัญญาที่เขียนให้จำเลยยึดไว้ 1 ปี ไม่ตรงกันทั้งนี้เพราะพยานเขียนสัญญาที่ให้จำเลยผิดพลาดไป นายเล็กปลัดอำเภอได้เบิกความต่อไปอีกว่า เมื่อทราบว่าสัญญาขายฝากที่จำเลยยึดไว้นั้น เจ้าพนักงานเขียนผิดจึงได้บอกให้จำเลยไปอำเภอเพื่อแก้ไขเสียให้ถูกตามความจริง จำเลยไม่ยอมทะเบียนต้นขั้วเอกสารหมาย จ.1 ที่เจ้าพนักงานส่งมาเป็นพยานตามโจทก์อ้างก็ปรากฏว่าการขายฝากเรือนพิพาทรายนี้มีกำหนดไถ่ถอน 2 ปี ไม่มีพิรุธว่าได้มีการแก้ไขแต่อย่างใดเลย จึงเห็นว่าพยานโจทก์เบิกความประกอบเอกสารทะเบียนต้นขั้วสัญญาขายฝากมั่นคง ฟังได้สมจริงว่าสัญญาขายฝากรายนี้มีกำหนดเวลาไถ่ถอน 2 ปี มิใช่ 1 ปี ดังข้อต่อสู้จำเลย จำเลยจะฉวยโอกาสเพราะเหตุที่เจ้าพนักงานเขียนสัญญาขายฝากที่ให้จำเลยยึดไว้ผิดพลาดเป็นประโยชน์แก่จำเลยไม่ได้ ที่ศาลล่างทั้งสองพิพากษาให้จำเลยแพ้คดีโจทก์มานั้นไม่เห็นมีเหตุอันควรแก้ไขแต่ประการใด ฎีกาจำเลยฟังไม่ขึ้น

จึงพิพากษายืน และให้จำเลยเสียค่าทนายความ 100 บาท แทนโจทก์

Share