แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ผู้ตายทำพินัยกัมสั่งไห้ที่ดินเปนกองกลางสำหรับเก็บผลประโยชน์บำรุงสาสนาและแบ่งไห้ลูกหลานและตายก่อนไช้ประมวนแพ่งฯบัพ 6 ลูกหลานได้โอนโฉนดรับมรดกและได้ปติบัติตามพินัยกัมเสมอมา และเข้าไจกันว่าการโอนปรับมรดกมิได้ถือว่ามีสิทธิเปลี่ยนแปลงดังนี้ เจ้าหนี้ของผู้มีชื่อไนโฉนดนั้นจะไช้สิทธิเรียกร้องของลูกหนี้ขอแบ่งแยกเพื่อยึดไช้หนี้ของตนไม่ได้
ย่อยาว
โจทฟ้องว่าโจทชนะความจำเลยที่ ๑ จำเลยที่ ๑ มีกัมสิทธิไนที่ดินโฉนดที่ ๖๖๓ ร่วมกับจำเลยที่ ๒-๓ ส่วนของจำเลยที่ ๑ เปนสินบริคนห์ระหว่างจำเลยที่ ๑ กับที่ ๔ ซึ่งเปนสามี จึงขอไห้โจทไช้สิทธิเรียกร้องไนนามของโจทเรียกเอาส่วนของจำเลยที่ ๑ เพื่อไช้หนี้ฝ่ายจำเลยไห้การว่าที่รายนี้เปนตรัสต์
ทางพิจารนาได้ความว่าที่รายพิพาทเปนมรดกนายกรุง นายกรุงทำพินัยกัมไห้ที่รายนี้เปนของกลางเก็บผลประโยชน์บำรุงสาสนาและแบ่งไห้ลูกหลาน นายกรุงวายชนม์มากกว่า ๒๐ ปีแล้ว ลูกหลานได้ปติบัติตามพินัยกัมเสมอมา พวกจำเลยได้โอนรับมดดกลงชื่อจำเลยที่ ๑,๒,๓,ไนโฉนด และได้จัดการทรัพย์รายนี้ต่อมาเช่นเดิมและเปนที่เข้าไจกันว่าการโอนรับมรดกมิได้ถือว่ามีสิทธิเปลี่ยนแปลงประการได
สาลดีกาวินิฉัยว่า การที่มีชื่อจำเลยที่ ๑ ไนโฉนดไม่ทำไห้สิทธิของจำเลยที่ ๑ เปลี่ยนแปลง คดีนี้โจทฟ้องไนนามของจำเลยที่ ๑ เมื่อจำเลยที่ ๑ ไม่มีสิทธิเปลี่ยนแปลงโจทก็ไม่มีสิทธิดีกว่าจำเลยที่ ๑ จึงพิพากสายกฟ้องโจท ยืนตามสางล่าง