คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 859/2511

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

วันนัดพิจารณาสืบพยานโจทก์ครั้งแรก ทนายโจทก์มอบฉันทะให้เสมียนมายื่นคำร้องขอเลื่อนการนั่งพิจารณา โดยไม่มีพยานมาศาลจำเลยคัดค้านว่า โจทก์ขอเลื่อนเพื่อประวิงคดี แต่ไม่ได้คัดค้านว่าทนายโจทก์ไม่ป่วยเจ็บจริง แม้ทนายโจทก์จะส่งใบรับรองแพทย์ภายหลัง ก็ถือไม่ได้ว่าทนายโจทก์ไม่ป่วยเจ็บจริง ความเจ็บป่วยของทนายความถือเป็นกรณีที่มีความจำเป็นอันไม่อาจก้าวล่วงเสียได้ ศาลต้องปฏิบัติตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 40 โดยสั่งเลื่อนคดีต่อไปได้อีกครั้งเดียวเท่านั้น มีกำหนดไม่เกินหนึ่งเดือน

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยผิดสัญญาไม่ชำระค่าเช่าตึก โจทก์ได้บอกเลิกการเช่าแล้ว ขอให้ห้ามจำเลยเกี่ยวข้องกับตึกที่เช่า และให้จำเลยชำระค่าเช่า ค่าเสียหาย

จำเลยต่อสู้ว่า จำเลยชำระค่าเช่าตลอดมา ไม่ได้ผิดสัญญา

ศาลชั้นต้นให้จำเลยนำสืบก่อน เมื่อจำเลยนำสืบพยานเสร็จแล้ว ถึงวันนัดสืบพยานโจทก์ครั้งแรก ตัวโจทก์และพยานไม่มาศาลพยานโจทก์มอบฉันทะให้เสมียนมายื่นคำร้องขอเลื่อนคดีแทน อ้างว่าป่วยเป็นไข้หวัดไม่สามารถมาศาลได้ จำเลยค้านว่าทนายโจทก์ขอเลื่อนอ้างว่าป่วยมาหลายครั้งแล้ว ครั้งนี้ก็ไม่มีใบรับรองแพทย์ พฤติการณ์แสดงว่าประวิงคดี

ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า การที่ทนายโจทก์ให้เสมียนมายื่นคำร้องขอเลื่อนโดยไม่มีพยานมาศาล เป็นการบีบบังคับศาลว่า คดีจำต้องเลื่อน ทนายโจทก์อ้างว่าป่วย ใบรับรองแพทย์ก็ไม่มี ระหว่างสืบพยานจำเลยทนายโจทก์ก็ขอเลื่อนมาหลายครั้ง แสดงให้เห็นว่าโจทก์ดำเนินกระบวนพิจารณาแบบประวิงคดีให้ชักช้าจึงไม่อนุญาตให้เลื่อนและถือว่าโจทก์ไม่มีพยานมาสืบ

หลังจากนั้น 8 วัน โจทก์ยื่นคำร้องคัดค้านพร้อมกับยื่นใบรับรองแพทย์ศาลชั้นต้นสั่งรวมสำนวน แล้วพิพากษายกฟ้อง

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีนี้หลังจากวันนัดชี้สองสถานแล้วคู่ความทั้งสองฝ่ายขอเลื่อนการนั่งพิจารณามา 4 ครั้ง โดยอีกฝ่ายไม่คัดค้าน เมื่อจำเลยขอเลื่อนการนั่งพิจารณาครั้งที่ 4 ศาลได้กำชับคู่ความทั้งสองฝ่ายแถลงร่วมกันว่านัดหน้าจะไม่ขอเลื่อนอีกไม่ว่าด้วยเหตุใด ๆ และทนายจำเลยยังแถลงเพิ่มเติมว่านัดหน้ามีพยานมาเท่าใด ก็จะขอสืบเพียงเท่านั้น ในนัดพิจารณานัดที่ 5 ศาลออกนั่งพิจารณาสืบพยานจำเลยเสร็จ พอถึงนัดที่ 6 วันนัดพิจารณาสืบพยานโจทก์ครั้งแรก ทนายโจทก์ก็ขอเลื่อนการนั่งพิจารณาโดยอ้างเหตุว่าป่วยเป็นไข้หวัดดังกล่าวแล้ว ครั้งนี้ไม่มีใบรับรองแพทย์ ทนายจำเลยค้านว่าโจทก์ขอเลื่อนเพื่อประวิงคดี แต่มิได้คัดค้านว่าทนายโจทก์ไม่ได้ป่วยเจ็บจริงในวันที่ทนายโจทก์ขอเลื่อน แม้จะไม่มีใบรับรองแพทย์ แต่ต่อมาทนายโจทก์ก็เสนอใบรับรองแพทย์ต่อศาลแพทย์ได้ตรวจอาการป่วยของทนายโจทก์ในวันรุ่งขึ้น แม้จะบันทึกอาการโรคย้อนหลังไปสักวันหนึ่ง จะฟังว่าในวันนัดพิจารณานั้น ทนายโจทก์ไม่เจ็บป่วยเห็นจะไม่ได้ การเจ็บป่วยของทนายความนี้ถือเป็นกรณีที่มีความจำเป็นอันไม่อาจก้าวล่วงเสียได้ และเมื่ออีกฝ่ายหนึ่งคัดค้านเช่นนี้ ศาลฎีกาเห็นว่า ศาลชั้นต้นควรปฏิบัติตามมาตรา 40แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งคือ อนุญาตให้โจทก์เลื่อนคดีต่อไปได้ครั้งเดียวเป็นครั้งสุดท้าย และการขอเลื่อนคดีของทนายโจทก์ในวันนัดพิจารณาสืบพยานโจทก์ครั้งแรกเช่นนี้ จะถือว่าโจทก์ประวิงคดีเพื่อการสืบพยานหลักฐานเช่นว่านั้นให้ชักช้าก็ไม่ถนัดเพราะเป็นการขอเลื่อนการสืบพยานของตนเองเป็นครั้งแรก และจะถือว่าการที่ตัวโจทก์และพยานโจทก์ไม่มีไปศาลเลยนั้น เป็นการบีบบังคับศาลให้จำต้องเลื่อนคดีก็ไม่สมควร เพราะตัวโจทก์และพยานโจทก์ไม่ไปศาล อาจเป็นโดยโจทก์เข้าใจว่าทนายโจทก์ป่วยและขอเลื่อนคดีแล้ว คดีคงจะเลื่อนไป โจทก์และพยานโจทก์จึงไม่มาศาลก็ได้กรณียังไม่ต้องด้วยมาตรา 86 และ 110 แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง

ศาลฎีกาเห็นว่า คดียังไม่พอฟังว่าฝ่ายโจทก์ประวิงคดี คำขอเลื่อนคดีของโจทก์มีเหตุจำเป็นควรให้เลื่อน

พิพากษายกคำพิพากษาสองศาลล่าง ให้ศาลชั้นต้นดำเนินการสืบพยานโจทก์ แล้วพิพากษาใหม่ตามรูปคดี

Share