แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
สัญญา ค่าปรับที่กำหนดไว้อันแน่นอน ฝ่ายที่ผิดสัญญาต้องพิศูจน์ว่าค่าปรับนั้นเกินสมควร
ย่อยาว
ข้อเท็จจริงฟังได้ว่าจำเลยเป็นผู้ผิดสัญญาฉบับที่ ๒ คือ ปฏิเสธไม่รับน้ำอ้อยประมาณ ๑๐๕๒๒ หาบ ซึ่งตามสัญญาปรากฏค่าเสียหายไว้โดยอัตราหาบละ ๑ บาท
ศาลคดีต่างประเทศวินิจฉัยว่า ราคาน้ำอ้อยในเดือนสิงหาคมหาบละ ๑ บาท ๖๐ สตางค์ ซึ่งต่ำกว่าราคาที่สัญญาซื้อกันไว้หาบละ ๖๕ สตางค์ จึงให้จำเลยใช้ค่าเสียหายให้โจทย์เป็นเงิน ๖๘๓๙ บาท ๓๐ สตางค์
ศาลอุทธรณ์เห็นว่า โจทย์พิศูจน์ค่าเสียหายได้แต่เฉภาะเดือนสิงหา ส่วนอีก ๗ เดือน ซึ่งโจทย์จะต้องส่งมอบน้ำอ้อย โจทย์พิศูจน์ค่าเสียหายไม่ได้ จึงพิพากษาให้จำเลยใช้ค่าเสียหายให้แก่โจทย์เพียง ๘๕๔ บาท ๙๒ สตางค์
ศาลฎีกาเห็นว่า เมื่อในสัญญาปรากฎเบี้ยปรับลงไว้โดยแจ้งชัดแล้ว ถ้าฝ่ายใดผิดสัญญาก็ย่อมเป็นน่าที่ของฝ่ายที่ผิดสัญญาจะต้องพิศูจน์ว่าเบี้ยปรับดังตกลงไว้นั้นเกินสมควร ฤาเกินส่วนการได้เสีย ซึ่งคู่สัญญาอาจจะได้รับในการชำระหนี้ตามสัญญานั้น ฤาพิศูจน์ว่าคู่สัญญามิได้มุ่งหมายกำหนดลงไว้ให้เป็นค่าเสียหายอันแน่นอน แต่คดีนี้ราคาน้ำอ้อยในท้องตลาดขึ้น ๆ ลง ๆ จึงเห็นว่าค่าปรับที่กำหนดไว้ในสัญญานั้นไม่เป็นการเกินสมควร แต่โจทย์ไม่ได้ฎีกาคัดค้านค่าเสียหายที่ศาล คดีต่างประเทศกำหนดไว้ ศาลฎีกาตัดสินยืนตามศาลคดีต่างประเทศ