แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
จับสุรามีแรงแอลกอฮอล์สูงกว่าของรัฐบาลได้ที่จำเลย ๆ ต่อสู้ว่าเอาสุราของรัฐบาลมาผสมกับยา ไม่รู้ว่าจะมีดีกรีสูงขึ้น โจทก์มีพนักงานสรรพสามิตต์มาเบิกความว่าการทำเช่นนั้นไม่ทำให้มีแรงกอฮอล์สูงขึ้นดังนี้ ศาลฟังว่าของกลางเป็นสุราเถื่อน
ย่อยาว
ได้ความว่าเจ้าพนักงานจับสุราปนหรือผสมด้วยเครื่องยาได้ที่บ้านจำเลย ๓๑ ขวดตรวจดูด้วยเครื่องปรากฎว่ามีดีกรี ๓๔ ดีกรี แลมีแรงแอลกอฮอล์สามารถดื่มกินได้เช่นสุรา
จำเลยต่อสู้ว่าจำเลยเป็นแพทย์แผนโบราณ น้ำในขวดของกลางเป็นน้ำยาสำหรับแก้โรคกะศัย จำเลยทำขึ้นโดยใช้เครื่องยาบางอย่างผสมกับน้ำท่าเอาใส่ขวดไว้ มิรู้ว่ามีแรงแอลกอฮอล์ดื่มกินได้อย่างสุรา จำเลยมิได้มีเจตนาทำให้เป็นน้ำสุราแลมิได้ขาย
ศาลฎีกาฟังว่าของกลางเป็นสุราเถื่อนข้อที่จำเลยแก้ตัวว่า จำเลยทำยารักษาโรคเกิดแอลกอฮอล์ขึ้นเองโดยไม่รู้แลไม่มีเจตนาจะทำขึ้นนั้น ศาลฎีกาเห็นว่าโจทก์มีช.เจ้าพนักงานกรมสรรพสามิตต์มาเบิกความว่าการเอาเครื่องยามาผสมกับสุราแลน้ำท่าเช่นจำเลยกล่าวนั้นไม่ทำให้เกิดแรงแอลกอฮอล์ จึงพิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์ ที่ให้ลงโทษจำเลยตาม ม.๘ วรรค ๒ แห่งพ.ร.บ.ภาษีชั้นในแก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ.๒๔๗๖