คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 815/2483

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ประกาศกระทรวงการคลังลงวันที่ 7 กันยายน 2482 จำเลยถูกฟ้องและศาลชั้นต้นก็ได้พิพากษาลงโทษจำเลยฐานนำเงินตราต่างประเทศเข้าในราชอาณาจักร ต่อมาจำเลยยื่นคำร้องต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ขออนุญาตนำเงินตราต่างประเทศนั้นเข้ามาในราชอาณาจักร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังอนุญาตแล้วดังนี้ ถือว่าจำเลยไม่มีความผิดอยู่อีกเพราะได้รับอนุญาตแล้ว

ย่อยาว

คดีนี้โจทก์ฟ้องและศาลจังหวัดสงขลาได้พิพากษาลงโทษจำเลยฐานนำเงินตราต่างประเทศเข้ามาในราชอาณาจักรเกินจำนวนโดยมิได้รับอนุญาตจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
จำเลยอุทธรณ์ ในระหว่างที่ศาลจังหวัดพิพากษาแล้วจำเลยได้ยื่นคำร้องต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังขออนุญาตนำเงินตราต่างประเทศนั้นเข้ามาในราชอาณาจักร์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังอนุญาต
ศาลอุทธรณ์เห็นว่าจำเลยยังมิได้ผ่านพ้นด่านตรวจศุลกากร จะเอาผิดแก่จำเลยฐานนำเงินตราต่างประเทศเข้ามาในราชอาณาจักร์ยังไม่ได้ จึงพิพากษากลับศาลจังหวัดยกฟ้องโจทก์
โจทก์ฎีกา ศาลฎีกาเห็นว่าคดีนี้ถ้าจำเลยพาเงินรายนี้เข้ามาในราชอาณาจักรพ้นด่านศุลกากรแล้วจำเลยก็มีความผิด ศาลจังหวัดพิพากษาลงโทษจำเลยก็เป็นการชอบเพราะขณะนั้น จำเลยยังมิได้รับอนุญาตจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังก็ต้องเป็นความผิด แต่ต่อมาปรากฏว่ารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังได้มีคำสั่งอนุญาตให้จำเลยนำเงินรายที่โจทก์ฟ้องนี้เข้ามาได้แล้ว จำเลยไม่มีความผิดอยู่อีกต่อไป เพราะตาม พรบ ว่าด้วยการนำเงินตราต่างประเทศเข้ามาในราชอาณาจักร พ.ศ. ๒๔๘๒ ม. ๔ (ข) ได้ ให้อำนาจรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังไว้อย่างกว้างขวางคือเมื่อเห็นสมควรแล้วก็อนุญาตได้โดยมิได้มีจำกัดเงื่อนไขไว้แต่ประการใด จึงพิพากษายกฟ้องโจทก์

Share