แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ผู้จัดการร้านไปจ้างช่างเขียนแบบเครื่องหมายการค้าแล้วนำไปจ้างพิมพ์พร้อมทั้งเข้าทั้งของร้านแต่แล้วงดพิมพ์พายหลังผู้จัดการคนนั้นออกจากร้านไปค้าส่วนตัวและเอาเครื่องหมายนั้นไปไช้ต่อมาเจ้าของร้านได้ไช้เครื่องหมายนั้นบ้าง และได้จดทเบียนเครื่องหมายแล้วโดยไม่รู้ว่ามีผู้ไช้เครื่องหมายนี้ดังนี้ ได้ชื่อว่าผู้จัดการนั้นไช้สิทธิไม่สุจริต ไม่มีสิทธิไนเครื่องหมายนั้นดีกว่าเจ้าของร้านเดิม
ย่อยาว
โจทฟ้องขอไห้สาลสแดงว่า โจทมีสิทธิที่จะจดทเบียนเครื่องหมายการค้าดอกจำปาดีกว่าจำเลย และห้ามมิไห้จำเลยได้รับจดทเบียนเครื่องหมาย
ได้ความว่า เดิมโจทจำเลยพิพาทเปนคดีอาญาถึงที่สุดแล้ว สาลจึงฟังข้อเท็ดจิงตามคดีอาญาว่า เครื่องหมายดอกจำปาไทยนั้น จำเลยได้จ้างช่างเขียนภาพตามแบบตั้งแต่โจทเปนผู้จัดการร้านของจำเลย และโจทจำเลยเคยไปว่าจ้างโรงพิมพ์พิมพ์ด้วยกัน แต่ก่อนพิมพ์ได้บอกเลิกเสียเพราะมีเครื่องหมายอื่นจำหน่ายหยู่แล้ว ครั้นโจทออกจากร้านจำเลยไปตั้งร้ายเองได้เอาเครื่องหมายดอกจำปาไทยมาไช้เปนเครื่องหมายการค้าครีมไส่ผมโดยจำเลยไม่ซาบจำเลยได้เอาแบบที่มีหยู่นานแล้วนั้นมาจ้างโรงพิมพ์พิมพ์พายหลังรูปภาพจึงเหมือนกัน เว้นแต่ตัวเลขเหนือดอกจำปาผิดเพี้ยนไปเล็กน้อย จำเลยกะทำไปโดยสุจริต
สาลอุธรน์เห็นว่า โจทลอกแบบเครื่องหมายไปจากจำเลยจึงไม่มีสิทธิฟ้งอจำเลย โจทลอกแบบไปแล้วยังมาฟ้องจำเลยอีก เปนที่ตระหนักว่าโจทไช้สิทธิไม่สุจริตตามประมวนปพ่ง ฯ มาตรา ๕ ที่โจทไช้เครื่องหมายการค้ามาก่อนก็ไม่มีอะไรคุ้มครอง ทั้งจำเลยได้จอทเบียนเครื่องหมายการค้าแล้ว จึงพิพากสายกฟ้องยืนตามสาลชั้นต้น
โจทดีกา สาลดีกาวินิฉัยว่าเครื่องหมายการค้านี้โจทเอามาจากจำเลยทั้ง ๆ ที่โจทรู้ว่าจำเลยได้คิดไว้เพื่อจะไช้เปนเครื่องหมายการค้าของตนโดยเวลานั้นโจทเปนผู้จัดการร้านของจำเลย เช่นนี้จะว่าโจทสุจริตหย่างไร เมื่อโจทกะทำการไม่สุจริตอันขัดต่อประมวนแพ่ง ฯ มาตรา ๕ แล้ว โจทก็อ้างสิทธินั้นไช้ยันจำเลยซึ่งเปนผู้ประดิดถ์และได้ไช้โดยสุจริตตลอดไปจดทเบียนแล้วไม่ได้โจทจึงไม่มีสิทธิจดทเบียนเครื่องหมายนี้ดีกว่าจำเลย ส่วนพระราชบัญญัติเครื่องหมายการค้า พ.ส.๒๔๗๔ จะมุ่งประสงค์หย่างไรก็แล้วแต่ แต่แน่นอนว่าไม่ประสงค์ช่วยคนไม่สุจริต จึงพิพากสายืนตามสาลล่าง.