คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 808/2531

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ฟ้องจำเลยฐานเบิกความเท็จ ตามคำบรรยายฟ้องของโจทก์แม้ระบุเลขคดีและชื่อคู่ความของคดีที่โจทก์กล่าวหาว่าจำเลยเบิกความเท็จ แต่ไม่ได้ระบุว่าคดีดังกล่าวมีข้อกล่าวหากันอย่างไร และข้อความที่อ้างว่าเท็จนั้นเป็นข้อสำคัญในคดีอย่างไร อันเป็นเหตุให้โจทก์ถูกศาลลงโทษ จึงเป็นฟ้องที่ไม่ได้บรรยายถึงการกระทำที่อ้างว่าจำเลยได้กระทำผิดพอสมควรเท่าที่จะให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดีไม่ชอบด้วยป.วิ.อ. มาตรา 158(5).(ที่มา-ส่งเสริม)

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานเบิกความเท็จตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 177
ศาลชั้นต้นตรวจคำฟ้องแล้ว เห็นว่า ฟ้องไม่ถูกต้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158 (5) พิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ‘คดีนี้โจทก์ฟ้องจำเลยฐานเบิกความเท็จต่อศาลอันเป็นข้อสำคัญในคดีในการพิจารณาคดีอาญาหมายเลขดำที่ 5/2524 ของศาลมณฑลทหารบกที่ 7 (ศาลจังหวัดเชียงใหม่)ระหว่าง อัยการศาลมณฑลทหารบกที่ 7 (อัยการจังหวัดเชียงใหม่)โจทก์ นายจิรวัฒน์ เขื่อนปัญญา จำเลย ว่า วันที่ 15 สิงหาคม 2521เวลาประมาณ 11 นาฬิกา ขณะนั้นข้า ฯ ขายอาหารที่หน้าตึกโรงพยาบาลศูนย์วิจัยประสาท ได้มีเหตุเกิดขึ้น ได้มีตำรวจเอานายแสงรักษาแล้วพาลงมา ต่อมาข้า ฯ ได้ยิงเสียงปืนดังขึ้น ข้า ฯ หันไปเห็นจำเลยนี้จับนายแสงไว้ ชายอีกคนหนึ่งไล่ตามตำรวจไป ตำรวจถูกยิงล้มลงไปคนหนึ่ง คนที่ยิงตำรวจคือชายที่มาซื้อของที่ร้านข้า ฯ โดยมากับจำเลยนี้ซึ่งเป็นความเท็จ ความจริงจำเลยมิได้อยู่ในบริเวณที่เกิดเหตุหรือไม่เห็นเหตุการณ์ที่คนร้ายกระทำความผิดดังกล่าวรวมทั้งไม่เห็นโจทก์ในบริเวณที่เกิดเหตุ เห็นว่า แม้ตามคำบรรยายฟ้องของโจทก์จะระบุเลขคดีและชื่อคู่ความไว้ก็ตามแต่ก็ไม่อาจทราบได้ว่าคดีที่โจทก์กล่าวหาว่าจำเลยเบิกความเท็จนั้นมีข้อกล่าวหากันอย่างไร และข้อความที่อ้างว่าจำเลยเบิกความเท็จนั้นเป็นข้อสำคัญในคดีก่อนอย่างไร อันเป็นเหตุให้โจทก์ถูกศาลลงโทษในคดีนั้น จึงเป็นฟ้องที่ไม่ได้บรรยายถึงการกระทำที่อ้างว่าจำเลยได้กระทำผิดพอสมควรเท่าที่จะให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดีฟ้องของโจทก์จึงเป็นฟ้องที่ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158 (5) ที่ศาลล่างทั้งสองพิพากษายกฟ้องโจทก์นั้น ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย ฎีกาโจทก์ฟังไม่ขึ้น’
พิพากษายืน.

Share