แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
พะยายโจทก์เหลวไหลจะ+ลงโทษจำเลยใด ๆ ไม่ได้เลยนั้น นับว่าเป็นเหตุใน+++คดี แม้จำเลยที่ถูกลงโทษอุทธรณ์ก็พิพากษา+++จำเลยทั้งหมดได้
ย่อยาว
คดีนี้ศาลชั้นต้นฟังว่าจำเลยทั้ง ๒ สมคบกันลักทรัพย์ของ ท. ไปพิพากษาให้ลงโทษตาม ม. ๒๙๕
ค. จำเลยผู้เดียวอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ฟังว่าพะยานของโจทก์ไม่พอฟังว่าจำเลยได้สมคบกันกระทำผิดดั่งโจทก์หาจึงพิพากษให้ยกฟ้องโจทก์ แลให้ปล่อย ส. จำเลยไปด้วย
โจทก์ฎีกาในข้อกฎหมายว่า ศาลอุทธรณืไม่มีอำนาจปล่อย ส. จำเลย แลว่าไม่ใช่เหตุอยู่ในส่วนลักษณคดีตาม ม. ๒๑๓ แห่
ประมวลวิธีพิจารณาอาญา
ศาลฎีกาเห็นว่า ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้ปล่อยจำเลยเพราะไม่มีพะยานที่นะรับฟังได้เป็นคดีไม่มีมูลจะเอาความผิดแก่ผู้ใดในพะยายชุดเดี่ยวที่นำสืบมาแล้วนั้นเห็นว่าเป็ฯเหตุอยู่ในลักษณคดี กรณีอยู่ใต้บังคับ ม. ๒๑๓ แห่งประมวลวิธีพิจารณา ความอาญา แม้ ส. จำเลยจะมิได้อุทธรณ์ขึ้นมา ศาลอุทธรณ์ก็พิพากษาปล่อย ส. จำเลยไปได้ จึงพิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์