แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ข้อบังคับของตำหรวดมีว่าถ้าหนีราชการไปเกิดกำหนดต้องถูกไล่ออก ตำหรวดผู้หนึ่งหนีราชการไปเกินกำหนดและถูกไล่ออกแล้ว แต่ไม่รู้ว่าถูกไล่ออกและแต่งเครื่องแบบไปทำการจับกุมราสดรดังนี้ไม่มีผิดถานแต่งเครื่องแบบตำหรวด
ตาม พ.ร.บ.เครื่องแบบตำหรวด(ฉบับที่ 3) พ.ส.2483 การแต่งเครื่องแบบตำหรวดโดยไม่มีสิทธิจะเปนความผิดต่อเมื่อมีเจตนา.
ย่อยาว
คดีมีปัญหามาสู่สาลดีกา ไนเรื่องความผิดถานแต่งเครื่องแบบตำหรวดโดยไม่มีสิทธิ
ข้อเท็ดจิงได้ความว่านายสุบินจำเลยเปนตำหรวดหนีราชการไปเกิน ๑๕ วันตามข้อบังคับของตำหรวดมีว่าตำหรวดคนไดหนีราชการไปเกิน ๑๕ วันแล้วไม่กลับต้องถูกไล่ออก เรื่องนี้ทางการสั่งไล่ออกแล้วแต่จำเลยไม่ซาบและได้แต่งเครื่องแบบตำหรวดไปจับกุมผู้ถูกหาว่ากะทำผิด สาลชั้นต้นเห็นว่าจำเลยเข้าไจว่าตนยังเปนตำหรวดหยู่จึงได้แต่งเครื่องแบบการกะทำของจำเลยขาดเจตนาไห้ยกฟ้อง
โจทอุธรน์ สาลอุธรน์พิพากสายืน
โจทดีกา สาลดีกาเห็นว่าข้อเท็ดจิงตามทางพิจารนาได้ความว่า ตามข้อบังคับของตำหรวด ตำหรวดที่หนีราชการไม่ได้ขาดจากตำแหน่งจนกว่าทางการจะมีคำสั่งไห้ไล่ออก ฉะนั้น ที่สาลอุธรน์ฟังข้อเท็ดจิงว่าจำเลยไม่ซาลคำสั่งว่าถูกไล่ออก จึงไม่เปนการวินิฉัยผิดจากข้อเท็ดจิงไนสำนวนดังดีกาโจท ส่วนที่โจทว่า จำเลยแต่งเครื่องแบบตำหรวดโดยไม่มีสิทธิ ไม่มีเจตนาก็เปนผิดนั้น เห็นว่า พ.ร.บ. เครื่องแบบตำหรวดที่โจทอ้างไม่มีบัญญัติไว้ว่าการกะทำผิดตาม พ.ร.บ.นี้เปนผิดอาญาได้โดยไม่ต้องมีเจตนา จำเลยจึงไม่มีผิด เพราะขาดเจตนาตามกดหมายลักสนะอาญา ม. ๔๓ พิพากสายืน