แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โดยปรกติเมื่อชายหญิงยังเป็นสามีภรรยากันอยู่ จะฟ้องร้องกันด้วยเรื่องทรัพย์ที่บริคณฑ์กันอยู่ไม่ได้ เว้นแต่จะมี ก.ม.บัญญัติให้อำนาจไว้ เช่น ป.พ.พ.มาตรา 1467, 1472, 1478 ในกรณีเช่นที่โจทก์ฟ้องนี้ ไม่มีกฎหมายบัญญัติไว้ โจทก์จึงไม่มีสิทธิฟ้องจำเลย
(อ้างฎีกา 622/2489)
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องเรียกนาพิพาทที่โจทก์ได้ทำกรมธรรม์สัญญายกให้แก่จำเลยผู้เป็นภรรยาโดยเสน่หาคืน โดยอ้างว่าจำเลยหนีตามชู้เป็นเหตุให้โจทก์เสียชื่อเสียงเป็นการเนรคุณแก่โจทก์ และขอให้ทำลายกรมธรรม์สัญญาเสียด้วย จำเลยให้การว่า จำเลยได้ขายนาพิพาทแก่นายเจิม โดยชำระราคาเสร็จเด็ดขาดตามคดีแดงที่ ๘๘/๒๔๘๙ ศาลชั้นต้นสอบคู่ความรับกันในข้อเท็จจริงบางประการแล้ว สั่งงดสืบพะยาน วินิจฉัยว่า จำเลยทำสัญญาขายนาพิพาทแก่นายเจิมระหว่างอยู่กินด้วยกันกับโจทก์ นาตกเป็นสิทธิแก่นายเจิม โจทก์ไม่มีสิทธิเรียกนา พิพากษายกฟ้อง
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า โดยปรกติเมื่อชายหญิงยังเป็นสามีภรรยากันอยู่ จะฟ้องร้องกันด้วยเรื่องทรัพย์ที่บริคณฑ์กันอยู่ไม่ได้ เว้นแต่จะมีกฎหมายบัญญัติให้อำนาจไว้ เช่น ป.พ.พ.มาตรา ๑๔๖๗, ๑๔๗๒, ๑๔๗๘ แต่หาได้บัญญัติให้ฟ้องร้องกันดังคำขอท้ายฟ้องของโจทก์ไม่ โจทก์ไม่มีสิทธิฟ้องจำเลย
พิพากษายืน