แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ลูกจ้างร้านฝิ่นรับฝากฝิ่นจากผู้อื่นเมื่อนายจ้างไม่อยู่นั้นถือว่าไม่ใช่กิจธุระในฐานะเป็นผู้จัดการของนายจ้างผู้ได้รับอนุญาตจำหน่ายฝิ่น จึงเป็นการนอกขอบเขตต์แห่งการงานนายจ้างจึงไม่มีความผิดฐานมีฝิ่นเกินบัญชี.
ย่อยาว
ได้ความว่าจำเลยที่ ๑ เป็นผู้ได้รับอนุญาตตั้งร้านจำหน่ายฝิ่น จำเลยที่ ๒ เป็นลูกจ้างเมื่อจำเลยที่ ๑ ไม่อยู่เจ้าพนักงานไปตรวจร้านฝิ่นจับฝิ่นของกลางได้ในร้านของจำเลย ซึ่งมิใช่ซื้อมาจากรัฐบาลและเดินไปจากบัญชี ซึ่งจำเลยที่ ๒ รับฝากจากผู้มีชื่อ โดยจำเลยที่ ๑ ไม่เกี่ยวข้อง โจทก์จึงฟ้องว่าจำเลยสมคบกันมีฝิ่นอื่นไม่ใช่ของรัฐบาลไว้เกินบัญชีสำหรับขายในร้านฝิ่น ขอให้ลงโทษ
ศาลชั้นต้นเห็นว่า จำเลยที่ ๑ เป็นผู้ได้รับอนุญาตให้จำหน่ายฝิ่น เมื่อมีฝิ่นเกินบัญชีแม้ไม่เกียวข้องรู้เห็นด้วยก็มีความผิด พิพากษาลงโทษจำเลยทั้งสอง
จำเลยที่ ๑ อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์เห็นว่าเมื่อโจทก์ฟ้องว่าจำเลยสมคบกันมีฝิ่นอื่นไว้เพื่อขาย แต่จำเลยที่ ๑ ปฏิเสธต่อสู้ว่าไม่อยู่ จำเลยที่ ๒ ได้มาอย่างไรไม่รู้เรื่อง โจทก์ไม่สืบพะยานว่าจำเลยสมคบกันดังนี้คงเอาผิดแก่จำเลยไม่ได้ จึงพิพากษาแก้ให้ยกข้อหาฉะเพาะจำเลยที่ ๑
โจทก์ฎีกา ศาลฎีกาเห็นว่าการที่จำเลยที่ ๒ รับฝากฝิ่นจากผู้มีชื่อเป็นการส่วนตัวมิใช่กิจธุระในฐานะเป็นผู้จัดการให้แก่จำเลยที่ ๑ จึงเป็นเรื่องนอกขอบเขตต์หน้าที่แห่งการงาน การจับฝิ่นในร้านเป็นเรื่องน่าสงสัยเท่านั้นไม่พอฟังว่าจำเลยที่ ๑ เป็นผู้มีฝิ่นเกินบัญชี จึงพิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์