คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 797/2477

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

พฤตติการณ์อย่างไรฟังว่าเป็นการป้องกันทรัพย์เกินสมควรแก่เหตุทรัพย์ที่ยังไม่มีกรรมสิทธิแต่อยู่ในที่ผูกขาด เมื่อมีผู้มาลักลอบพวกผู้ผูกขาดใช้กำลังทำร้ายเพื่อป้องกันทรัพย์นั้นได้

ย่อยาว

ได้ความว่าผู้ตายกับพวกพากันไปลักล่อเป็ดเพื่อจับปลาในลำคลองระหาญซึ่งมีนายอากรผูกขาดอยู่ แต่ยังไม่ทันเบ็ด จำเลยกับพวกเป็นผู้เฝ้าคลองของนายอากรมาพบเข้าผู้ตายกับพวกก็พากันหนี จำเลยกับพวกไล่ติดตาม แลใช้ปืนยิงไป ๓ นัดกะสุนปืนถูกผูตายถึงแก่ความตาย ปรากฎว่าจำเลยเป็นผู้ยิงผู้ตาย
ศาลเดิมแลศาลอุทธรณ์พิพากษาให้จำคุกจำเลย ๑๕ ปี ตามมาตรา ๒๔๙
ศาลฎีกาเห็นว่าคดีนี้ปรากฎว่าผู้ตายกับพวกมีเครื่องมือพร้อมพากันไปลงเบ็ดเพื่อจับปลาในที่ ๆ ซึ่งมีนายอากรผูกขาดหวงห้าม แม้จะยังไม่ได้สัตว์น้ำไปก็ดี กิริยาของผู้ตายที่หนีไปโดยมีสิ่งของพาไปเช่นนี้ ฝ่ายจำเลยอาจเข้าใจว่าพาเอาทรัพย์ที่หวงห้ามไปด้วยซึ่งเกิดจากการกระทำของผู้ตายที่ทำให้จำเลยเข้าใจผิด จำเลยเป็นคนใช้ของนายอากรแลเป็นผู้ดูแลในที่นั้น มีสิทธิที่จะป้องกันเอาทรัพย์คืนมิให้พาไปได้ แม้จะกระทำโดยเข้าใจผิดในข้อเท็จจริงก็ยังต้องฟังว่าเป็นการป้องกันทรัพย์ตามมาตรา ๕๐ แต่จำเลยทำเกินสมควรแก่เหตุ ควรวางโทษตามมาตรา ๕๓.จึงพิพากษาให้จำคุกจำเลย ๓ ปี

Share