คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 790/2502

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ยื่นคำร้องขอให้นับโทษจำเลยต่อจากคดีหนึ่ง ซึ่งศาลได้พิพากษาแล้ว ศาลได้ส่งสำเนาให้จำเลยรับไปแล้ว เมื่อไม่ปรากฏในสำนวนเลยว่า จำเลยเป็นคนเดียวกับคดีที่โจทก์ขอให้นับโทษต่อ ดังนี้ จึงนับโทษต่อให้ไม่ได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานปล้นทรัพย์

จำเลยให้การปฏิเสธข้อหาว่าปล้นทรัพย์ จำเลยที่ 1 ถึงที่ 5 รับว่าได้ลักทรัพย์รายนี้

วันสืบพยานโจทก์นัดแรก โจทก์ยื่นคำร้องว่า จำเลยที่ 1 เป็นจำเลยคนเดียวกับจำเลยในคดีแดงที่ 463/2500 ของศาลจังหวัดปากพนังขอให้นับโทษต่อ ศาลชั้นต้นส่งสำเนาให้จำเลยที่ 1 รับไปในวันเดียวกัน แต่หาได้สอบถามจำเลยแต่อย่างใดไม่

ศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุกจำเลยที่ 1 ถึงที่ 5 ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 335, 78 จำคุกคนละ 2 ปี ยกฟ้องจำเลยที่ 6 และให้นับโทษจำเลยที่ 1 ต่อจากคดีแดงที่ 463/2500

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ ให้นับโทษจำเลยที่ 1 ตั้งแต่วันต้องขัง

โจทก์ฎีกาขอให้นับโทษจำเลยที่ 1 ต่อจากคดีแดงที่ 463/2500

ศาลฎีกาเห็นว่า คำร้องของโจทก์ขอให้นับโทษจำเลยที่ 1 ต่อจากคดีแดงที่ 463/2500 ย่อมเป็นส่วนหนึ่งของฟ้องซึ่งโจทก์มีหน้าที่ต้องติดตามนำสืบหรือแสดงให้ประจักษ์ปราศจากสงสัย จำเลยรับสำเนาคำร้องแล้วเฉยเสีย ยังไม่ยอมรับข้อเท็จจริง จะให้รื้อฟื้นขึ้นว่ากล่าวใหม่ จึงไม่จำเป็นสำหรับคดีนี้

พิพากษายืน

Share