แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
เมื่อคดีได้ความว่าจำเลยทั้ง 2 มีเหตุกับผู้เสียหาย วันเกิดเหตุจำเลยทั้ง 2 ซึ่งเป็นพี่น้องกันอยู่ที่เกิดเหตุก่อนผู้เสียหายมาถึง เมื่อจำเลยที่ 2 ใช้กระสุนยิงผู้เสียหาย จำเลยที่ 1 ไม่ห้าม ครั้นผู้เสียหายเข้าไปถามว่าเรื่องอะไร จำเลยกลับพูดว่า วันนี้กูเอามึงแน่อ้ายทัด (ชื่อผู้เสียหาย) ทั้งที่จำเลยที่ 2 รู้และเห็นว่าจำเลยที่ 1 มีปืนในขณะนั้น ดังนี้แสดงว่าจำเลยทั้งสองเจตนาร่วมกันในอันที่กระทำแก่ผู้เสียหาย จำเลยที่ 2 ยิงด้วยลูกกระสุน แล้วจำเลยที่ 1 ก็ยิงด้วยปืนในระยะเวลากระชั้นชิดติดต่อกัน จำเลยต้องมีผิดฐานสมคบกันพยายามฆ่าโดยเจตนา.
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยทั้งสองสมคบกันและทำผิด ก.ม.คือจำเลยที่ ๒ ใช้กระสุนยิงด้วยลูกดิน จำเลยที่ ๑ ใช้ปืนลูกซองยิงนายทัดบาดเจ็บโดยจำลยทั้งสองเจตนาจะฆ่าให้ตายหากกระสุนปืนไม่ถูกที่สำคัญจึงไม่ตายเจตนาจะฆ่าให้ตายหากกระสุนปืนไม่ถูกที่สำคัญจึงไม่ตาย ขอให้ลงโทษตาม ม.๒๔๙,๖๐,๖๓,๗๑,๒๘,๒๙ และ พ.ร.บ.อาวุธปืน ฯ พ.ศ.๒๔๙๐ ม.๗,๗๒ ฯลฯ
จำเลยที่ ๑ ให้การว่านายทัดไล่ขับจะฟันมารดาจำเลย จำเลยที่ ๑ จึงยิงป้องกันมารดา ส่วนปืนและกระสุนรับว่ามิได้รับอนุญาตจริง
จำเลยที่ ๒ ปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยที่ ๑ ทำการป้องกันมารดาไม่ควรรับโทษ แต่ลงโทษฐานมีอาวุธปืน ให้จำคุก ๖ เดือน ปรับ ๕๐๐ บาท ลดตาม ม.๕๙ คงจำคุก ๓ เดือน ปรับ ๒๕๐ บาท โทษจำรอไว้ ๓ ปี ให้ยกฟ้องเฉพาะข้อหาที่ว่าจำเลยที่ ๑,๒ สมคบกันพยายามฆ่านายทัดนั้นเสีย.
โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษาว่าจำเลยทั้ง ๒ มีความผิดฐานพยายามฆ่าคนตาม ม.๒๔๙ ประกอบด้วย ม.๖๐ ให้จำคุกคนละ ๑๐ ปี จำเลยที่ ๒ อายุเพียง ๑๘ ปี ลดกึ่งตาม พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติม ก.ม.อาญา (ฉบับที่๑๔) พ.ศ.๒๔๙๔ ม.๗ คงจำคุกจำเลยที่ ๒ มีกำหนด ๕ ปี ปรับจำเลยที่ ๑ ๕๐๐ บาท ตาม พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ ๒๔๙๐ ม.๗,๗๒ ลดกึ่งตาม ม. ๕๙ คงปรับ ๒๕๐ บาท ของกลางริบ
จำเลยทั้งสองฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่าจำเลยทั้ง ๒ มีสาเหตุกับนายทัดในวันเกิดเหตุจำเลยซึ่งเป็นพี่น้องได้อยู่ที่เกิดเหตุด้วยกันก่อนตั้งแต่นายทัดมา เมื่จำเลยที่ ๒ ใช้กระสุนยิงนายทัด จำเลยที่ ๑ ก็ไม่ห้าม ครั้นเมื่อนายทัดเข้าไปถ้าว่า ยิงเรื่องอะไร จำเลยทั้งสองกลับพูดว่า วันนี้กูเอามึงแน่อ้ายทัด จำเลยที่ ๒ รู้และเห็นจำเลยที่ ๑ มีปืนมาในขณะนั้น จำเลยทั้งสองมีเจตนาร่วมกันในอันที่จะกระทำแก่นายทัด จำเลยที่ ๑ ยิงด้วยลูกกระสุนก่อนซึ่งเป็นอาวุธที่ตนมีอยู่ในเวลานั้น แล้วจำเลยที่ ๑ ก็ยิงด้วยปืนภายในระยะเวลากระชั้นชิดติดต่อกัน แสดงให้เห็นว่าเป็นการกระทำร่วมมือกัน ฟังได้ว่าจำเลยทั้ง ๒ สมคบกันทำผิดฐานพยายามฆ่าคนโดยเจตนา. พิพากษายืน.