แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
การขอแก้ฟ้องนั้นโจทก์จะฟ้องแสดงเหตุผลอันสมควรจะกล่าวสอย ๆ ว่าฟ้องคลาดเคลื่อนไปดังนี้ ศาลไม่อนุญาตให้แก้
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยทำผิด+วันที่ 5 ครั้นสืบพะยานโจทก์หมดแล้วโจทก์ขอแก้ฟ้องว่าจำเลยทำผิดในวันที่ 4 เพื่อให้ตรงกับคำพะยานฝ่ายตนดังนี้ ไม่มีเหตุผลอันสมควรและทำให้จำเลยเสียเปรียบในการต่อสู้คดี ศาลไม่อนุญาตให้แก้
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยกระทำผิดในวันที่ ๕ เมษายน ๒๔๘๑ ครั้นโจทก์สืบพะยานโจทก์หมดแล้ว โจทก์ร้องว่าในฟ้องลงวันคลาดเคลื่อนไป ขอแก้เป็นว่าจำเลยทำผิดในวันที่ ๔
ศาลชั้นต้นไม่อนุญาตแล้วพิพากษาให้ยกฟ้องโจทก์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับอนุญาตให้โจทก์แก้วันกระทำผิดในฟ้องได้แล้วให้ศาลชั้นต้นดำเนินการพิจารณาพิพากษาต่อไป
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาตัดสินว่าโจทก์ขอแก้ฟ้องโดยมิได้แสดงเหตุผลอันสมควรอย่างใดเลยเป็นแต่กล่าวสั้น ๆ ว่าฟ้องคลาดเคลื่อนไป จึงหามีอำนาจตาม ม.๑๖๓ แห่งประมวลวิธีพิจารณาอาญา ที่จะขอแก้ฟ้องได้ไม่ และการที่โจทก์นำพะยานมาสืบว่าวันที่จำเลยทำผิดซึ่งหาใช่วันเวลาตามฟ้องของโจทก์ไม่ย่อมเป็นสิ่งธรรมดาที่จำเลยจะไม่ระมัดระวังในการซักค้านพะยานโจทก์เมื่อโจทก์มาขอแก้ฟ้องในภายหลังเพื่อให้ตรงกับคำพะยานของตนเช่นนี้ ย่อมถือว่าทำให้จำเลยเสียเปรียบในการต่อสู้คดีตาม ม.๑๖๔ จึงพิพากษากลับศาลอุทธรณ์ยืนตามศาลชั้นต้น