แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
คดีที่ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องแม้ฟังข้อเท็จจริงไม่ตรงกันก็ฎีกาในข้อเท็จจริงไม่ได้
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องและยื่นคำร้องเพิ่มเติมฟ้องว่า จำเลยสมคบกับพวกใช้เครื่องมือลักจับปลาในบ่อของโจทก์ และทำลายต้นข้าวเสียหายขอให้ลงโทษตามมาตรา 288, 293, 324, 325 และ 63
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วฟังว่า จำเลยสมคบกันจับปลาจริงแต่จำเลยเข้าใจโดยมีเหตุผลสมควรว่าเป็นหนองสาธารณประโยชน์ มิได้เคยมีจิตคิดเป็นโจร พิพากษายกฟ้อง
ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า หนองรายนี้เป็นหนองสาธารณะ ปลาที่จับได้คือ ปลาในหนองสาธารณะนั่นเอง จำเลยไม่มีผิดฐานยักยอกทรัพย์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง
ศาลฎีกาเห็นว่า คดีเรื่องนี้ศาลอุทธรณ์ได้พิพากษายืนตามศาลชั้นต้นโดยอาศัยข้อเท็จจริง ต้องห้ามฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 219 ให้ยกฎีกาของโจทก์