คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 765/2482

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

+ผ้าไหมเทียมเข้ามา+ที่ไม่มีด่านศุลกากร+ไม่ใช่ทางที่อนุมัติ โดยได้เสียภาษีนั้น แม้จะโดย+รัฐบาลต่างประเทศ บังคับให้นำออกจากประเทศโดยการฝ่าฝืนกฎหมายของประเทศก็ต้องมีผิดตาม พ.ร.บ.ศุลกากร +27 จะอ้างเหตุจำเป็นตามกฎหมายอาญา ม. ++ ไม่ได้ และของนั้นต้อง+ริบด้วยเสมอ
อ้างฎีกาที่ 118/2482
+ที่เคยเสียภาษีแล้วเมื่อนำ+ไปจากประเทศแล้วนำ เข้ามาอีกก็ต้องเสียภาษีใหม่ ศาลล่างพิพากษาต้องกันปรับพันบาทและริบทรัพย์+หมื่นบาทเศษนั้น ฎีกาข้อเท็จจริงไม่ได้ +ที่ไม่ถือว่าเป็นฟ้องเคลือบคลุม

ย่อยาว

ได้ความว่าจำเลยนำผ้าไหมเทียมซึ่งยังมิได้เสียภาษีและมิได้ผ่านด่านศุลกากรโดยถูกต้องเข้ามาในประเทศไทยโดยผ่านทางตำบลแม่สายอำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย อันเป็นที่ซึ่งไม่มีด่านศุลกากรและไม่ใช่ทางที่อนุมัติให้นำสินค้าผ่านเข้ามา จำเลยต่อสู้ว่าจำเลยนำของกลางเข้ามาเนื่องจากรัฐบาลอังกฤษบังคับให้จำเลยนำของกลางออกจากอาณาจักรอังกฤษ แต่ได้ความว่าที่ถูกบังคับนั้นเนื่องจากการฝ่าฝืนกฎหมายของจำเลย และจำเลยต่อสู้ว่าของรายนี้ได้เคยเสียภาษีครั้ง ๑ แล้ว
ศาลจังหวัดเชียงรายพิพากษาลงโทษจำเลยตามพ.ร.บ.ศุลกากรให้ปรับ ๑๐๐๐ บาทกับริบของกลางซึ่งมีราคาสำนวนละสองหมื่นบาทเศษ
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา ศาลฎีกาวินิจฉัยว่าจำเลยจะอ้างเหตุจำเป็นตามกฎหมายลักษณอาญา ม.๔๙ ขึ้นแก้ตัวไม่ได้ เพราะเกิดจากความผิดและการฝ่าฝืนกฎหมายของจำเลยเอง ส่วนข้อที่จำเลยอ้างว่าฟ้องเคลือบคลุมนั้นโจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยบังอาจนำของกลางเข้ามาซึ่งเป็นของที่ยังมิได้เสียภาษี และมิได้ผ่านด่านศุลกากรโดยถูกต้องอันเป็นผิดตาม ม.๒๗ แล้ว จำเลยไม่อาจเสียเปรียบ อนึ่งคดีนี้แม้ศาลจะสั่งริบทรัพย์มีราคามากก็คงฎีกาข้อเท็จจริงไม่ได้ ตามวิธีพิจารณาความอาญามาตรา ๒๑๘ จะนำวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๒๔๘ มาใช้บังคับไ่ได้ ส่วนข้อที่จำเลยอ้างว่าเคยเสียภาษีของรายนี้ครั้ง ๑ แล้วนั้น เมื่อจำเลยนำของรายนี้ออกไปแล้วก็ย่อมไม่มีสิทธินำเข้ามาอีก นอกจากจะได้เสียภาษีใหม่และคดีเช่นนี้ศาลต้องริบของกลางเสมอตามมาตรา ๓๔ จึงพิพากษายืนตามศาลล่าง

Share