แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ข้อความตามรายงานกระบวนพิจารณาฟังได้เพียงว่ามีการเสนอท้ากันในครั้งแรกจะถือให้เอาผลคดีอาญาของศาลชั้นต้นเป็นข้อแพ้ชนะกันในคดีโดยทนายจำเลยขอไปศึกษาข้อเท็จจริงจากทนายจำเลยในคดีอาญาดังกล่าวเสียก่อน ในวันนัดต่อมาคู่ความแถลงร่วมกันต่อศาลใหม่ว่าขอถือเอาข้อเท็จจริงที่ปรากฏในผลแห่งคดีอาญาของศาลชั้นต้น มาเป็นข้อเท็จจริงในคดีนี้ โดยไม่มีข้อตกลงให้ถือเอาผลคดีอาญาดังกล่าวมาเป็นข้อแพ้ชนะกันตามที่เคยเสนอท้ากันไว้ แสดงว่าคู่ความไม่ประสงค์จะถือเอาผลคดีอาญาดังกล่าวมาเป็นข้อแพ้ชนะกันในคดีนี้ คงเพียงแต่ให้ถือข้อเท็จจริงคดีนี้ตามข้อเท็จจริงในคดีอาญาเท่านั้น ข้อตกลงตามรายงานกระบวนพิจารณาดังกล่าวจึงไม่ใช่คำท้า
ย่อยาว
โจทก์ทั้งสองฟ้องขอให้บังคับจำเลยทั้งสี่ร่วมกันชำระเงินจำนวน ๔๙๖,๐๐๐ บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ ๗.๕ ต่อปี จากต้นเงินจำนวน ๔๐๐,๐๐๐ บาท นับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ทั้งสอง
จำเลยทั้งสี่ให้การ ขอให้ยกฟ้อง
ก่อนเริ่มสืบพยาน คู่ความทั้งสองฝ่ายแถลงร่วมกันว่า ให้ถือเอาข้อเท็จจริงที่ปรากฏในผลแห่งคดีอาญา หมายเลขดำที่ ๑๗๙๗/๒๕๓๕ ของศาลชั้นต้น มาเป็นข้อเท็จจริงในคดีนี้ โดยคู่ความทั้งสองฝ่ายติดใจที่จะนำพยานเข้าสืบเรื่องค่าเสียหายเพียงประเด็นเดียว
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
โจทก์ทั้งสองอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค ๘ พิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำเลยที่ ๑ ที่ ๒ และที่ ๓ ร่วมกันชำระค่าเสียหายแก่โจทก์ทั้งสอง เป็นเงิน ๑๑๐,๐๐๐ บาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ ๗.๕ ต่อปี นับแต่วันฟ้อง เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จ นอกจาก ที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
โจทก์ทั้งสองและจำเลยที่ ๑ ถึงที่ ๓ ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยแล้ว เห็นว่า ข้อความตามรายงานกระบวนพิจารณาทั้งสองฉบับฟังได้เพียงว่า มีการเสนอท้ากันในครั้งแรกจะให้ถือเอาผลคดีอาญาหมายเลขดำที่ ๑๗๙๗/๒๕๓๕ ของศาลชั้นต้นเป็นข้อแพ้ชนะกันในคดีนี้ โดยทนายจำเลยทั้งสี่ขอไปศึกษาข้อเท็จจริงจากทนายจำเลยในคดีอาญาดังกล่าวเสียก่อน แล้วในวันนัดต่อมาคู่ความแถลงร่วมกันต่อศาลใหม่ว่า ขอถือเอาข้อเท็จจริงที่ปรากฏในผลแห่งคดีอาญาหมายเลขดำที่ ๑๗๙๗/๒๕๓๕ ของศาลชั้นต้น มาเป็นข้อเท็จจริงในคดีนี้ โดยไม่มีข้อตกลงให้ถือเอาผลคดีอาญาดังกล่าวมาเป็นข้อแพ้ชนะกันตามที่เคยเสนอท้ากันไว้ แสดงว่า คู่ความไม่ประสงค์จะถือข้อเท็จจริงคดีอาญาดังกล่าวมาเป็นข้อแพ้ชนะกันในคดีนี้ คงเพียงแต่ให้ถือข้อเท็จจริงคดีนี้ตามข้อเท็จจริงในคดีอาญาดังกล่าวเท่านั้น ข้อตกลงตามรายงานกระบวนพิจารณาทั้งสองฉบับดังกล่าวจึงไม่ใช่คำท้า และจะถือว่าโจทก์ทั้งสองต้องเป็นฝ่ายแพ้คดีดังที่จำเลยที่ ๑ ถึงที่ ๓ ฎีกาไม่ได้
พิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำเลยที่ ๑ ที่ ๒ และที่ ๓ ร่วมกันชำระค่าเสียหายแก่โจทก์ทั้งสองเป็นเงิน ๒๐๐,๐๐๐ บาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ ๗.๕ ต่อปี นับแต่วันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จ