แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
การเบิกเงินเกินบัญชีจะกระทำไปกี่คราว คราวละเท่าใดนั้นเป็นรายละเอียดที่โจทก์ไม่จำต้องกล่าวในฟ้อง และไม่ทำให้ฟ้องโจทก์เคลือบคลุม (ประชุมใหญ่ครั้งที่ 30/2509)
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยค้ำประกันการเบิกเงินเกินบัญชีของบริษัทคูสุวรรณ จำกัด ไว้กับโจทก์ บริษัทคูสุวรรณ จำกัด ได้เบิกเงินเกินบัญชีไปจากโจทก์เป็นเงินทั้งสิ้น 103,469.60 บาท และผิดนัดไม่ชำระหนี้ให้แก่โจทก์ โจทก์ได้ฟ้องบริษัทคูสุวรรณ จำกัด เป็นคดีล้มละลายแล้ว และได้ทวงให้จำเลยชำระหนี้แก่โจทก์ จำเลยก็ไม่ชำระและหลบเลี่ยงจำเลยเป็นหนี้โจทก์เกินกว่าหนึ่งพันบาท เป็นหนี้มีจำนวนแน่นอน และถึงกำหนดชำระแล้ว จำเลยไม่มีทรัพย์สินที่พอจะยึดมาชำระหนี้โจทก์และเจ้าหนี้อื่น ขอให้ศาลพิพากษาว่าจำเลยเป็นบุคคลล้มละลายและพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดตามพระราชบัญญัติล้มละลาย
จำเลยให้การรับว่าได้ทำสัญญาค้ำประกันบริษัทคูสุวรรณ จำกัด จริง แต่บริษัทคูสุวรรณ จำกัด จะได้เบิกเงินเกินบัญชีไปจากโจทก์หรือไม่ กี่คราว เท่าใด และเมื่อครบกำหนดชำระหนี้ จะยังเป็นหนี้โจทก์อยู่หรือไม่ จำนวนเท่าใด ได้ชำระไปแล้วเพียงใด จำเลยไม่ทราบและไม่รับรอง โจทก์ไม่เคยแจ้งให้จำเลยทราบ ฟ้องโจทก์เคลือบคลุม
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วเห็นว่าฟ้องโจทก์ไม่เคลือบคลุม จำเลยเป็นหนี้โจทก์เกินหนึ่งพันบาทเป็นหนี้ที่แน่นอน และจำเลยเป็นคนมีหนี้สินล้นพ้นตัว จึงมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ จำเลยเด็ดขาดตามพระราชบัญญัติล้มละลาย
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาเห็นโดยที่ประชุมใหญ่ว่า การเบิกเงินเกินบัญชีที่บริษัทคูสุวรรณ จำกัด กระทำไปกี่คราว ๆ ละเท่าใดนั้นเป็นรายละเอียดที่โจทก์ไม่จำต้องกล่าวในฟ้อง ฟ้องโจทก์จึงสมบูรณ์ และไม่เคลือบคลุม คดีเข้าข้อสันนิษฐานว่าจำเลยมีหนี้สินล้นพ้นตัว ตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 มาตรา 8(9) แล้ว และโจทก์ก็นำสืบได้ว่าจำเลยมีหนี้สินล้นพ้นตัว คดีมีเหตุผลเชื่อฟังได้ว่า บริษัทคูสุวรรณ จำกัด เป็นหนี้โจทก์และจำเลยได้ทราบ จำนวนหนี้รายนี้แล้วดังฟ้องโจทก์
พิพากษายืน ยกฎีกาจำเลย