แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
นายอำเภอสั่งขังราษฎรเกินอำนาจโดยเจตนาร้ายทำตามคำสั่งผู้มีอำนาจเหนือ
ย่อยาว
คดีนี้ได้ความว่า อ. จำเลยเปนนายอำเภอเกิดผิดใจกับ ป. โจทก์ เมื่อ ป. นำเจ้าพนักงานรังวัดที่ดินของ โจทก์เพื่อแบ่งแยกยกที่ให้แก่รัฐบาลเพื่อปลูกที่ว่าการอำเภอ โรงพักตำรวจ ย. ไม่ยอมให้ตัดกิ่งไม้ที่บังเส้นกล้อง ป. ขืนตัด อ. โกรธ และได้พูดอาฆาฎไว้ ๓ หลักโดยลำพัง และสั่งไว้ว่า ใครถอนให้จับ ป. นำผู้ใหญ่บ้านไปถอนหลัก โดยถือว่ารุกล้ำเข้าไปในที่ของ โจทก์เกินเขตร์ที่ โจทก์ยกที่ดินให้รัฐบาล เวลานั้น อ. ไม่อยู่ ถ. ปลัดอำเภอสั่งตับตามคำสั่ง พอ อ. กลับมาก็สั่งให้ขัง ป. ไว้ที่โรงพักหาว่าลักหลัก
ศาลเดิมเห็นว่าจำเลยทั้ง ๒ มีผิดตาม ม. ๒๗๐ ให้จำคุกและปรับ แต่โทษ จำคุกให้รอไว้
ศาลอุทธรณ์เห็นว่าจำเลยสั่งให้จับโดยหน้าที่ราชการ และมีเหตุผลว่าหลักเขตร์เปนของอำเภอจึงให้ยกฟ้อง
ศาลฎีกาตัดสินกลับศาลอุทธรณ์โดยฟังว่า โจทก์ไม่มีเจตนาลักหลักเขตร์ เพราะ โจทก์เปนเจ้าของที่ดิน และการแบ่งแยกก็ยังไม่เด็ดขาดทั้ง โจทก์ก็ทำการโดยเปิดเผย มีผู้ใหญ่บ้านเปนพยาน ที่ อ. จำเลยสั่งจับ โจทก์ไปกักขังนั้น เปนการใช้อำนาจส่วนตัวเกินกว่าหน้าที่ราชการอันควรจะทำ อีกประการหนึ่ง อ. มีเหตุอริห์ยาดหมางกับ โจทก์ อ. จำเลยมีผิดตาม ม. ๑๔๕ – ๒๗๐ ให้ จำคุก ๑ เดือนและปรับ ๕๐ บาท โทษ จำคุกให้ยกเสียตาม ม. ๔๐ ประกอบฎีกาที่ ๕๔๖/๖๒ ส่วน ถ. จำเลยซึ่งเปนปลัดอำเภอทำไปตามคำสั่งโดยเชื่อว่าชอบด้วย กฎหมายไม่ควรมีผิด