แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
คดีที่จำเลยทำารชิงทรัพย์ 2 รายอันเปนความผิด 2 กะทง นั้น สาลมีอำนาดลงโทสแค่กะทงเดียวได้ ไม่จำเปนต้องลงทั้ง 2 กะทงเสมอไป
ย่อยาว
ได้ความตามดจทฟ้องและจำเลยรับสารภาพและหลักถานพยานโจทว่า  เมื่อวันที่ ๑๑ กันยายน ๒๔๘๖  เวลากลางวัน  จำเลยได้สมคบกันลักไก่ของนายหมุดไป ๑ ตัว  แล้วไปลักไก่ของนางเพี้ยนอีก ๑ ตัว  ไนการนี้นายพิกุลจำเลยมีอาวุธปืนสั้นติดตัวไปและไช้ปืนนั้นขู่เข็นจะทำร้ายนายหมุดและนางเพี้ยนเจ้าทรัพย์ทั้ง ๒ รายเพื่อประโยชน์ที่จะเอาทรัพย์และเพื่อจะหลีกเลี่ยงไห้พ้นอาญา
สาลชั้นต้นลงโทสจำเลยทั้งสองถานชิงทรัพย์ตามกดหมายลักสนะอาญามาตรา ๒๙๙ เปน ๒ กะทง  แต่ไห้ลงโทสกะทงเดียว
สาลอุธรน์เห็นว่า  ตามกดหมายลักสนะอาญามาตรา ๗๑  น่าจะบังคับไห้ลงโทสจำเลยทุกกะทงความผิด  จึงพิพากสาแก้ไห้ลงโทสจำเลยทั้ง ๒ กะทง
จำเลยดีกา สาลดีกาเห็นว่า  กดหมายลักสนะอาญามาตรา ๗๑ มีความว่า  เมื่อผู้ไดมีความผิดหลายกะทง  สาลจะลง
โทสตามกะทงความผิดทุกกะทงความผิดก็ได้ดังนี้ย่อมมีความหมายแจ้งชัดว่า  การจะลงโทสจำเลยตามกะทงความผิดทุกกะทงหรือไม่  เปนอำนาดดุลยพินิจของสาลและสำหรับคดีนี้สาลชั้นต้นก็มิได้วางโทสจำเลยไนกะทงความผิดที่เบา  ไม่มีปัญหาต้องพิจารนามาตรา ๗๐ ประกอบ  จึงพิพากสาแก้คำพิพากสาสาลอุธรน์  ยืนตามสาลชั้นต้น
