คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 738/2537

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 177 วรรคสามบัญญัติบังคับไว้ว่าฟ้องแย้งนั้นจะต้องเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับคำฟ้องเดิม หากเป็นเรื่องอื่นที่ไม่เกี่ยวกับคำฟ้องเดิมให้ศาลสั่งให้จำเลยฟ้องเป็นคดีต่างหาก จากบทบัญญัติดังกล่าวหากคำฟ้องแย้งไม่เกี่ยวกับคำฟ้องเดิม แม้ศาลชั้นต้นรับคำฟ้องนั้นไว้เป็นฟ้องแย้งก็เป็นฟ้องแย้งที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย อันเป็นปัญหาข้อกฎหมายเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชนศาลอุทธรณ์ชอบที่จะยกขึ้นวินิจฉัยได้เอง แม้โจทก์จะไม่ได้อุทธรณ์โต้แย้งขึ้นมาก็ตาม โจทก์ฟ้องว่าจำเลยกระทำละเมิดต่อโจทก์ด้วยการสร้างประตูเหล็ก 2 บาน ปิดกั้นซอยทางเข้าออกระหว่างซอยกับโกดังเก็บสินค้าของโจทก์ ขอให้บังคับจำเลยทั้งสองรื้อถอนประตูเหล็กทั้งสองบานและให้จำเลยชดใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์ จำเลยให้การและฟ้องแย้งว่า จำเลยมีสิทธิปิดกั้นประตูเหล็กทั้งสองบานตามที่โจทก์ฟ้อง โจทก์เองเป็นฝ่ายผิดสัญญาเช่าด้วยการปลูกสร้างอาคารในที่ดินที่เช่าจากจำเลยไม่ตรงตามสัญญา ขอให้ขับไล่โจทก์และบริการกับเรียกค่าเสียหายเอาแก่โจทก์ ดังนี้คำฟ้องแย้งของจำเลยที่ว่าโจทก์ประพฤติผิดสัญญาเช่าหรือไม่ ไม่เกี่ยวกับคำฟ้องเดิม

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยนำประตูเหล็กจำนวนสองบานมาปิดกั้นซอยซึ่งโจทก์ใช้เป็นทางเข้าออกระหว่างถนนราชวิถีกับโกดังสินค้าของโจทก์ทั้ง ๆ ที่สัญญาเช่าที่ดินเพื่อปลูกสร้างโกดังยังมีเวลาเหลืออีก 6 ปีเศษ ขอให้บังคับจำเลยรื้อถอนประตูเหล็กทั้งสองบานออกจากซอย และให้จำเลยทำให้ซอยดังกล่าวอยู่ในสภาพเดิมถ้าหากจำเลยไม่ยอมทำก็ให้โจทก์รื้อถอนได้เองโดยให้จำเลยเป็นผู้เสียค่าใช้จ่ายทั้งหมด ทั้งให้จำเลยชดใช้ค่าเสียหาย 2,000 บาทกับค่าเสียหายนับจากวันฟ้องเป็นต้นไปอีกวันละ 500 บาท จนกว่าจะรื้อถอนประตูเหล็กออกไป
จำเลยให้การและฟ้องแย้งว่า จำเลยไม่ได้ให้เช่าที่ดินเพื่อปลูกโกดังสินค้าการที่โจทก์ปลูกโกดังสินค้าลงไปจึงเป็นการผิดสัญญาจำเลยไม่ประสงค์ให้โจทก์เช่าที่พิพาทต่อไป ขอให้บังคับโจทก์รื้อถอนและขนย้ายสิ่งปลูกสร้างออกไปจากที่พิพาทภายในกำหนด 2 เดือน ถ้าครบกำหนดแล้วโจทก์ยังไม่ปฏิบัติตามจำเลยขอคิดค่าเสียหายเดือนละ 5,000 บาท กับขอให้ขับไล่โจทก์และบริวารออกไปจากที่พิพาท ถ้าโจทก์ไม่รื้อถอนก็ให้จำเลยรื้อถอนเองโดยให้โจทก์เป็นผู้เสียค่าใช้จ่าย สิ่งของและเศษวัสดุที่รื้อถอนให้ตกเป็นกรรมสิทธิ์ของจำเลย
โจทก์ให้การแก้ฟ้องแย้งว่า โจทก์ไม่ได้ผิดสัญญาเช่ากับจำเลยเพราะโจทก์ได้เช่าที่ดินของจำเลยเพื่อปลูกสร้างโกดังเก็บสินค้าฟ้องแย้งของจำเลยไม่เกี่ยวกับฟ้องเดิม ขอให้ยกฟ้องแย้ง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยรื้อถอนประตูเหล็กทั้งสองบานออกไปจากซอย และให้จำเลยทำให้ซอยดังกล่าวอยู่ในสภาพเดิมให้จำเลยใช้ค่าเสียหาย 1,600 บาท แก่โจทก์ ที่โจทก์ขอรื้อถอนประตูเหล็กทั้งสองบานเองโดยให้จำเลยเป็นผู้เสียค่าใช้จ่ายนั้นให้ยกและยกฟ้องแย้งของจำเลย
จำเลยอุทธรณ์
ระหว่างการพิจารณาของศาลอุทธรณ์ โจทก์ถึงแก่กรรม จำเลยยื่นคำร้องขอให้เรียกนางจวน แซ่ฮึง มารดาของโจทก์เข้าเป็นคู่ความแทนศาลอุทธรณ์อนุญาต
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า การที่จำเลยจะฟ้องแย้งมาในคำให้การได้ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 177 วรรคสาม บัญญัติบังคับไว้ว่าฟ้องแย้งนั้นจะต้องเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับคำฟ้องเดิมหากเป็นเรื่องอื่นที่ไม่เกี่ยวกับคำฟ้องเดิม ให้ศาลสั่งให้จำเลยฟ้องเป็นคดีต่างหาก จากบทบัญญัติของกฎหมายดังกล่าวจะเห็นได้ว่าหากคำฟ้องแย้งที่จำเลยฟ้องมาในคำให้การไม่เกี่ยวกับคำฟ้องเดิมคำฟ้องนั้นก็มิใช่ฟ้องแย้ง แม้ศาลชั้นต้นรับคำฟ้องนั้นไว้เป็นฟ้องแย้ง ฟ้องแย้งนั้นก็เป็นฟ้องแย้งที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ฟ้องแย้งที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายเป็นปัญหาข้อกฎหมายอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน เมื่อศาลอุทธรณ์เห็นคำฟ้องแย้งของจำเลยเป็นฟ้องแย้งที่ไม่ชอบเพราะไม่ได้เกี่ยวกับคำฟ้องเดิม แม้โจทก์จะไม่ได้อุทธรณ์โต้แย้งขึ้นมา ศาลอุทธรณ์ชอบที่จะยกขึ้นวินิจฉัยได้เอง
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยกระทำละเมิดต่อโจทก์ด้วยการสร้างประตูเหล็ก2 บาน ปิดกั้นซอยทางเข้าออกระหว่างซอยกับโกดังเก็บสินค้าของโจทก์ โจทก์ฟ้องบังคับให้จำเลยรื้อถอนประตูเหล็กทั้งสองบานและให้จำเลยชดใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์ จำเลยให้การและฟ้องแย้งว่าจำเลยมีสิทธิปิดกั้นประตูเหล็กทั้งสองบ้านตามที่โจทก์ฟ้องโจทก์เองเป็นฝ่ายผิดสัญญาเช่าด้วยการปลูกสร้างอาคารในที่ดินที่เช่าจากจำเลยไม่ตรงตามสัญญา ขอให้ขับไล่โจทก์และบริวารกับเรียกค่าเสียหายเอาแก่โจทก์ จะเห็นได้ว่า คำฟ้องแย้งของจำเลยที่ว่า โจทก์ประพฤติผิดสัญญาเช่าหรือไม่ อย่างไรไม่ได้เกี่ยวกับคำฟ้องเดิม คำฟ้องของจำเลยที่ศาลชั้นต้นสั่งรับเป็นฟ้องแย้งไว้เป็นฟ้องแย้งที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาว่าฟ้องแย้งของจำเลยเป็นเรื่องอื่นไม่เกี่ยวกับคำฟ้องเดิมชอบที่ศาลชั้นต้นจะสั่งไม่รับฟ้องแย้งของจำเลยและให้จำเลยฟ้องเป็นคดีต่างหากนั้นชอบแล้ว
พิพากษายืน

Share