คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 736/2503

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

เมื่อศาลพิพากษายกฟ้องของโจทก์แล้ว ฟ้องแย้งของจำเลยย่อมตกไป เพราะฟ้องแย้งนั้นจะต้องมีฟ้องเดิมและตัวโจทก์เดิมที่ะเป็นจำเลยตอ่ไปเป็นหลักอยู่ด้วย

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์ทั้ง ๔ ซึ่งเป็นผู้เยาว์ เป็นบุตรนายจุ่น นายเตย ดาวเลิศ นายเตยมีกรรมสิทธิ์ที่ดินไม่มีโฉนด ๑ แปลง โดยนางแก้ว มารดานางเตยทำพินัยกรรมยกให้ ต่อมานางเตยวายชนม์ โจทก์ได้ครอบครองต่อมา จำเลยอ้างตนเป็นเจ้าของที่ดินและเรือน จึงขอให้ศาลพิพากษาแสดงว่าพินัยกรรมของนางแก้วชอบด้วยกฎหมาย ให้นางเตยเป็นผู้รับทรัพย์ตามพินัยกรรมนั้น และให้โจทก์ซึ่งเป็นบุตร รับมรดก นางเตยเป็นเจ้าของที่ดินและเรืออย่าให้จำเลยเข้ามาเกี่ยวข้อง
จำเลยให้การและฟ้องแย้งว่า นายจุ่นไม่มีอนำาจฟ้องคดี เพราะไม่ได้เป็นสามีชอบด้วยกฎหมายของนางเตย จึงมิใช่บิดาโดยชอบของผู้เยาว์ จึงไม่มีอำนาจฟ้องแทนผู้เยาว์ได้ ส่วนฟ้องแย้งนั้น จำเลยเป็นหญิงมีสามีและสามียังมีชีวิตอยู่ การฟ้องขอแบ่งมรดก ต้องได้รับความยินยอมเป็นหนังสือจากสามีก่อน พิพากษายกฟ้องและยกฟ้องแย้งของโจทก์จำเลย แต่ไม่ตัดสิทธิคู่ความที่จะฟ้องร้องใหม่
จำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกาว่า นายจุนไม่มีอำนาจฟ้องแทนผู้เยาว์ แต่นายจุ่นมีอำนาจต่อสู้คดีแทนผู้เยาว์ที่จำเลยฟ้องแย้งได้ในฐานะผู้ปกครอง
ศาลฎีกาเห็นว่า เมื่อนายจุ่นไม่มีอำนาจฟ้องแทนผู้เยาว์ และเมื่อศาลพิพากษายกฟ้องของโจทก์แล้ว ฟ้องแย้งของจำเลยย่อมตกไป เพราะฟ้องแย้งนั้นจะต้องมีฟ้องเดิมและตัวโจทก์เดิมที่เป็นจำเลยต่อไปเป็นหลักอยู่ด้วย พิพากษายืน

Share