แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลย ฐานลักทรัพย์ หรือรับของโจรข้อเท็จจริงได้ความว่า ของกลางที่จับได้จากบ้านจำเลย เป็นของที่จำเลยช่วยขนหนีอัคคีภัยมาเก็บรักษาไว้ตามคำขอร้องของเจ้าทรัพย์การกระทำของจำเลยไม่เป็นผิดฐานลักทรัพย์หรือรับของโจร
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยที่ 1 ฐานสมคบกับพวกลักทรัพย์ของนางสายในขณะเกิดเพลิงไหม้ และจำเลยที่ 2 ได้รับทรัพย์บางอย่างที่จำเลยที่ 1 ลักมา โดยรู้อยู่แล้วว่าเป็นของได้มาจากการกระทำผิดและจำเลยที่ 2 ได้เอาความเท็จบอกแก่เจ้าพนักงานว่าทรัพย์ที่ลักมาไม่มีอยู่ที่บ้านด้วย เจตนาให้หลงเชื่อในทางที่เป็นเท็จ โดยมีเจตนาช่วยให้จำเลยที่ 1 ให้พ้นอาญา นางสายยื่นคำขอเป็นโจทก์ร่วมกับอัยการ จำเลยให้การว่าเป็นสามีภริยากันและอยู่บ้านเดียวกัน ทรัพย์ที่จับได้จากบ้านจำเลยเป็นของเจ้าทรัพย์จริง เพราะเจ้าทรัพย์ร้องขอให้ช่วยเก็บรักษาไว้ เหตุที่ถูกฟ้องเนื่องจากเจ้าทรัพย์โกรธหาว่าเอาสายพานไปเก็บแล้วไม่คืนให้ ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับว่า จำเลยที่ 1 มีผิดตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 293 จำคุก 2 ปี จำเลยที่ 2 มีผิดตามมาตรา 321 จำคุก 6 เดือน
จำเลยทั้งสองฎีกา
ศาลฎีกาฟังว่า ของกลางที่จับได้จากบ้านจำเลยเป็นของซึ่งจำเลยที่ 1 ช่วยขนหนีอัคคีภัย มาเก็บรักษาไว้ตามคำขอร้องนางสาย การกระทำของจำเลยจึงไม่ผิดตามฟ้อง
พิพากษากลับ ให้ยกฟ้อง