คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7154/2545

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

ในการวินิจฉัยปัญหาข้อกฎหมายศาลฎีกาจำต้องฟังข้อเท็จจริงตามที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยมาแล้วจากพยานหลักฐานในสำนวนตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 222 เมื่อศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่าจำเลยที่ 2 กระทำความผิดฐานเป็นผู้สนับสนุนผู้อื่นออกใบเสร็จรับเงินและใบกำกับภาษีโดยมิชอบเท่านั้น จำเลยที่ 2 จึงไม่ได้เป็นผู้ปลอมใบเสร็จรับเงินและใบกำกับภาษีและเมื่อมีการล่อซื้อใบเสร็จรับเงินและใบกำกับภาษีปลอมจำนวน 69 ชุดในครั้งเดียวการกระทำของจำเลยที่ 2 ฐานเป็นผู้สนับสนุนผู้อื่นออกใบกำกับภาษีและใบเสร็จรับเงินปลอมรวม 69 ชุด จึงเป็นความผิดกรรมเดียว การที่ศาลล่างพิพากษาลงโทษจำเลยที่ 2ในความผิดฐานนี้ 69 กระทง จึงไม่ชอบ

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยทั้งสามร่วมกันกระทำความผิดหลายกรรม กล่าวคือ จำเลยทั้งสามร่วมกันทำปลอมใบเสร็จรับเงิน ใบกำกับภาษีพร้อมสำเนาของร้านเหรียญชัยซัพพลาย บริษัทแอร์ปาร์ค จำกัด และร้านไทยอินต้ากรุ๊ปขึ้นทั้งฉบับ แล้วกรอกข้อความลงในแบบพิมพ์ปลอมดังกล่าวเป็นหลักฐานว่าผู้ประกอบการขายสินค้าให้แก่ห้างหุ้นส่วนจำกัด ที.ที.เอ็น.เซอร์วิส ใช้เอกสารสิทธิที่ทำปลอมขึ้นขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่มจากกรมสรรพากรโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น กรมสรรพากรและประชาชนเพื่อให้ผู้หนึ่งผู้ใดหลงเชื่อว่าเป็นเอกสารที่แท้จริง ต่อมาจำเลยทั้งสามร่วมกันใช้เอกสารสิทธิปลอมดังกล่าวอ้างแสดงต่อนายปราโมทย์และผู้อื่น เจ้าพนักงานตำรวจจับจำเลยทั้งสามพร้อมยึดใบเสร็จรับเงิน ใบกำกับภาษี 69 ชุด ธนบัตร ฉบับละ 500 บาท 39 ฉบับและเช็คธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) จำนวน 1 ฉบับ เป็นของกลาง ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 264, 26, 268, 32, 33, 82, 91 ประมวลรัษฎากรมาตรา 77/1(6), 86/13, 90/4, 90/4(3) ริบใบเสร็จรับเงินและใบกำกับภาษีของกลาง

จำเลยทั้งสามให้การปฏิเสธ

ระหว่างพิจารณาจำเลยที่ 1 หลบหนี ศาลชั้นต้นมีคำสั่งจำหน่ายคดีชั่วคราวเฉพาะจำเลยที่ 1

ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยที่ 2 มีความผิดตามประมวลรัษฎากร มาตรา 86/13วรรคหนึ่ง, 90/4(3) ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 264 วรรคหนึ่ง, 265 ประกอบมาตรา 86 และมาตรา 268 วรรคหนึ่ง ประกอบมาตรา 83 การกระทำของจำเลยที่ 2เป็นความผิดหลายกรรมต่างกันลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไปตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 ความผิดฐานสนับสนุนให้ผู้อื่นออกใบเสร็จรับเงินและใบกำกับภาษีโดยมิชอบเป็นกรรมเดียวกับฐานสนับสนุนให้ผู้อื่นปลอมเอกสารสิทธิลงโทษฐานออกใบเสร็จรับเงินและใบกำกับภาษีโดยมิชอบ ซึ่งเป็นบทที่มีโทษหนักที่สุดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 รวม 69 กระทง จำคุกกระทงละ 6 เดือน และลงโทษฐานร่วมกันใช้เอกสารสิทธิปลอมจำคุก 6 เดือน รวมจำคุก 35 ปี แต่ทั้งนี้ให้ลงโทษจำคุก 20 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91(2) ริบของกลาง ยกฟ้องจำเลยที่ 3ข้อหาอื่นนอกจากนี้ให้ยก

จำเลยที่ 2 อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษายืน

จำเลยที่ 2 ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “คดีมีปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาของจำเลยที่ 2 เพียงประการเดียวว่า การกระทำความผิดฐานปลอมเอกสารตามฟ้องของโจทก์ เป็นความผิดกรรมเดียวตามที่จำเลยที่ 2 ฎีกาหรือไม่ ซึ่งปัญหาข้อนี้เป็นปัญหาข้อกฎหมายที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งรับมาเพียงข้อเดียว เห็นว่า ในการวินิจฉัยปัญหาดังกล่าว ศาลฎีกาจำต้องฟังข้อเท็จจริงตามที่ศาลอุทธรณ์ภาค 2 วินิจฉัยมาแล้วจากพยานหลักฐานในสำนวนตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 222 คดีนี้ศาลอุทธรณ์ภาค 2 วินิจฉัยข้อเท็จจริงว่า จำเลยที่ 2 กระทำความผิดฐานเป็นผู้สนับสนุนผู้อื่นออกใบเสร็จรับเงินและใบกำกับภาษีโดยมิชอบเท่านั้น ข้อเท็จจริงจึงฟังไม่ได้ว่าจำเลยที่ 2 เป็นผู้ปลอมใบเสร็จรับเงินและใบกำกับภาษี โจทก์นำสืบได้แต่เพียงว่าพบใบเสร็จรับเงินและใบกำกับภาษีปลอม จำนวน69 ชุด ซึ่งลงวันที่แตกต่างกันจากจำเลยที่ 2 เท่านั้น ไม่มีพยานโจทก์ที่พบเห็นว่าผู้ปลอมเอกสารกระทำการปลอมเอกสารเป็น 69 ครั้ง ต่างกรรมต่างวาระ แม้ว่าวันที่ลงในเอกสารดังกล่าวจะแตกต่างกันก็ไม่แน่นอนว่าผู้ปลอมจะทำการปลอมเอกสารต่าง ๆในวันที่ระบุในเอกสาร ผู้ปลอมอาจทำการในวันเดียวกันและในเวลาตามวันที่ระบุในเอกสารเหล่านั้น และโดยเฉพาะจำเลยที่ 2 นั้น ข้อเท็จจริงฟังได้ตามที่ศาลอุทธรณ์ภาค 2วินิจฉัยว่าเป็นเพียงผู้สนับสนุนเท่านั้น และข้อเท็จจริงก็ฟังได้ว่ามีการล่อซื้อใบเสร็จรับเงินและใบกำกับภาษีปลอม จำนวน 69 ชุด ในครั้งเดียวเท่านั้น จึงไม่แน่นอนว่าจำเลยที่ 2จะสนับสนุนในการกระทำความผิดฐานปลอมเอกสารต่าง ๆ ตามที่ระบุในเอกสารเช่นเดียวกัน จึงต้องฟังว่าการกระทำของจำเลยที่ 2 ฐานเป็นผู้สนับสนุนผู้อื่นออกใบกำกับภาษีและใบเสร็จรับเงินปลอมรวม 69 ชุด เป็นความผิดกรรมเดียว ที่ศาลล่างทั้งสองพิพากษาลงโทษจำเลยที่ 2 ในความผิดฐานนี้ 69 กระทงนั้น ศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วยฎีกาของจำเลยที่ 2 ฟังขึ้น”

พิพากษาแก้เป็นว่า ความผิดฐานเป็นผู้สนับสนุนให้ผู้อื่นออกใบเสร็จรับเงินและใบกำกับภาษีโดยมิชอบ กับฐานสนับสนุนให้ผู้อื่นปลอมเอกสารสิทธิเป็นความผิดกรรมเดียว ลงโทษฐานเป็นผู้สนับสนุนให้ผู้อื่นออกใบเสร็จรับเงินและใบกำกับภาษีโดยมิชอบซึ่งเป็นบทหนักตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 เพียงกระทงเดียว โดยให้จำคุก6 เดือน เมื่อรวมกับโทษจำคุก 6 เดือน ในความผิดฐานใช้เอกสารปลอมแล้วรวมลงโทษจำคุกจำเลยที่ 2 มีกำหนด 1 ปี นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 2

Share