แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
เงินเหรียนบาทเปนเหรียนกสาปน์ชนิดหนึ่งตาม  พ.ร.บ.เงินตรา(ฉบับที่ 9) 2485 ม. 3  และหยู่ไนความหมาย ม. 3  แห่ง  พ.ร.บ.เงินตราไนภาวะฉุกเฉิน(ฉบับที่ 2) 2485
พรึติการน์ที่ถือว่ามีเหรียนกสาปน์ไว้ไนครอบครองจำนวนไม่เกินสมควน
ย่อยาว
โจทฟ้องว่าจำเลยมีเหรียนกสาปน์ชนิดเงินบาท ๔๐๐ บาทไว้ไนครอบครองอันเปนจำนวนเกินสมควน  ฯลฯ  ทางพิจารนาได้ความว่าจำเลยมีอาชีพตั้งร้างขายทองรูปพรรนไนจังหวัดบุรีรัมย์ วันเกิดเหตุจำเลยนำเงินเหรียน ๔๐๐ บาทกับธนบัตร ๓๕๐ บาทมาขึ้นรถไฟเพื่อจะไปซื้อทองที่จังหวัดนครราชสีมา  เจ้าพนักงานจับจำเลยขนะที่จำเลยไปขึ้นรถ
สาลชั้นต้นเห็นว่าจำเลยผิดตาม พ.ร.บ.เงินตราไนภาวะฉุกเฉิน(ฉบับที่ ๒) พ.ส. ๒๔๘๕  มาตรา ๕  ไห้จำคุก ๕ ปี
จำเลยอุธรน์  สาลอุธรน์เห็นว่า  ตามพระราชบัญญัติเงินตราไนภาวะฉุกเฉิน  เหรียนกสาปน์ไม่หมายถึงเหรียนบาทซึ่งเปนหน่วยแห่งเงินตรา  ไครจะมีเหรียนบาทสักเท่าไรก็ลงโทสไม่ได้  พิพากสายกฟ้อง  แต่มีความเห็นแย้งว่า  เหรียนบาทเปนเหรียนกสาปน์ตามกดหมาย
โจทดีกา   สาลดีกาเห็นว่า  เงินเหรียนบาทเปนเหรียนกสาปน์ชนิดหนึ่งตามพระราชบัญญัติเงินตรา(ฉบับที่ ๙) พ.ส. ๒๔๘๕  มาตรา ๓ แต่การที่จำเลยผู้เปนพ่อค้าขายเครื่องทองรูปพรรนนำเงินเหรียน ๔๐๐ บาทกับธนบัตร ๓๕๐ บาทขึ้นรถไฟจะไปซื้อทองที่จังหวัดนครราชสีมานี้ไม่เปนจำนวนเกินสมควน  หรือเกิดจำเลยหย่างไดอันจะถือว่าเปนผู้ค้าเหรียนกสาปน์ได้  แม้จะวินิฉัยตามพระราชกำหนดแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติเงินตราไนภาวะฉุกเฉิน  พ.ส. ๒๔๘๔  พ.ส. ๒๔๘๖  มาตรา ๓ ก็คงได้ผลเช่นเดียวกัน  จึงไห้ยกฟ้องโจทโดยพิพากสายืน

