แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 259 โดยกล่าวว่า จำเลยขับรถยนต์โดยปราศจากความระมัดระวังฯลฯ ชนผู้เสียหายบาดเจ็บสาหัส เพราะต้องทนทุกข์เวทนากล้าและไม่สามารถประกอบอาชีพได้ตามปกติเกินกว่า 20 วัน จำเลยรับสารภาพไม่ต่อสู้ประการใดดังนี้ศาลต้องฟังตามคำรับของจำเลยว่า ผู้เสียหายบาดเจ็บสาหัสตามฟ้องจะยกเอาแต่ฐานแผลภายนอกตามใบชันสูตรซึ่งไม่เกี่ยวถึงความบอบช้ำภายในมาวินิจฉัยว่า บาดเจ็บเล็กน้อยไม่ได้
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยขับรถยนต์โดยสารปราศจากความระมัดระวังโดยขับเลี้ยววงกว้างเกินขอบถนนเป็นเหตุให้ชน ป. บาดเจ็บสาหัสเพราะต้องทนทุกข์เวทนาและไม่สามารถประกอบอาชีพเกิน 20 วันขอให้ลงโทษตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 259 จำเลยรับว่าได้กระทำผิดจริง ไม่ขอสืบพยานต่อสู้ประการใด
ศาลชั้นต้นเห็นว่า บาดแผลของ ป. เพียงถลอกและบวมเท่านั้นไม่ถึงสาหัส พิพากษาจำคุก 5 วัน ปรับ 25 บาท ตามกฎหมายลักษณะอาญามาตรา 338 โดยลดกึ่งหนึ่งแล้ว ยกโทษจำ
ศาลอุทธรณ์เห็นว่า โจทก์ฟ้องว่าจำเลยขับรถยนต์ชน ป. บาดเจ็บถึงสาหัส จำเลยก็รับตามฟ้อง ไม่มีเหตุควรฟังเป็นอย่างอื่น พิพากษาแก้ให้จำคุก 4 เดือน ตามมาตรา 259 โดยลดกึ่งหนึ่งแล้ว
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า คดีนี้จำเลยยอมรับสารภาพตามข้อหาไม่มีข้อต่อสู้อย่างใด จึงฟังได้ตามฟ้องโดยมิต้องสืบพยาน คำฟ้องแสดงชัดว่า ป. ได้รับบาดเจ็บสาหัส แม้ในใบชัณสูตรก็ลงว่า “ถูกของแข็งกระแทกอย่างแรง ฯลฯ รักษาประมาณ 3 สัปดาห์” ส่วนฐานแผลที่ลงว่าถลอก บวมนั้น หมายถึงที่เห็นจากฐานแผลภายนอกไม่เกี่ยวถึงความบอบช้ำภายใน จะยกเอาฐานแผลตามใบชัณสูตรมาเป็นหลักฐานแสดงว่าบาดเจ็บเล็กน้อยไม่ได้ ต้องฟังตามคำรับสารภาพของจำเลยว่า ป. ได้รับบาดเจ็บสาหัสตามฟ้อง
พิพากษายืน