คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 707/2493

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ในคดีที่โจทก์หาว่าจำเลยกระทำผิดฐานรับของโจร เป็นหน้าที่ของโจทก์จะต้องนำสืบความผิดของจำเลยว่า จำเลยได้รับทรัพย์นั้นไว้โดยรู้อยู่แล้วว่าเป็นของที่ได้มาโดยการกระทำผิดกฎหมายหาใช่เป็นหน้าที่ของจำเลยต้องนำสืบไม่ (อ้างฎีกา 577/2484)

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยทั้งสองสมคบกันลักหรือรับผ้าของกลางไว้โดยรู้อยู่แล้วว่าเป็นของที่ได้มาจากการกระทำผิดกฎหมาย จำเลยทั้งสองให้การปฏิเสธ

ศาลชั้นต้นเห็นว่า ข้อหาฐานลักทรัพย์โจทก์ไม่มีพยาน ส่วนข้อหาฐานรับของโจรฟังว่าจำเลยทั้ง 2 ได้รับผ้าของกลางไว้ แต่จำเลยที่ 1 ผู้เดียวรับไว้โดยรู้อยู่ว่าเป็นของร้าย ให้จำคุกจำเลยที่ 1 1 ปีตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 321 ส่วนจำเลยที่ 2 ให้ยกฟ้อง

ศาลอุทธรณ์เห็นว่า พยานโจทก์ยังไม่พอฟังลงโทษจำเลยพิพากษากลับให้ยกฟ้อง ปล่อยจำเลยที่ 1

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาเห็นว่า โจทก์ไม่มีพยานที่จะแสดงเลยว่า จำเลยที่ 1 ได้รับผ้าของกลางรายนี้ไว้จากใครอย่างไร และรู้ว่าเป็นของที่ได้มาจากการกระทำผิดกฎหมายหรือไม่ ในคดีที่โจทก์หาว่า จำเลยกระทำผิดฐานรับของโจรตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 321 เป็นหน้าที่ของโจทก์จะต้องนำสืบความผิดของจำเลยว่า จำเลยได้รับทรัพย์นั้นไว้โดยรู้อยู่แล้วว่า เป็นของที่ได้มาโดยการกระทำผิดกฎหมาย หาใช่เป็นหน้าที่ของจำเลยจะต้องนำสืบไม่ เห็นพ้องด้วยศาลอุทธรณ์

พิพากษายืน

Share