แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
บรรยายฟ้องความผิดฐานแจ้งความเท็จ ต้องได้ความว่า ความข้อไหนเป็นเท็จอย่างไร ทำไมอาจทำให้ผู้อื่นหรือสาธารณชนเสียหายได้ จึงจะเป็นฟ้องที่สมบูรณ์
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานแจ้งความเท็จแก่เจ้าพนักงาน โดยบรรยายฟ้องว่า “เนื่องจากการสอบสวนคดีอาญาเรื่องนายแสน นายเลิศ พลพิไชย ต้องหาว่าทำร้ายร่างกายผู้มีชื่อ เมื่อวันที่ ๒๑ เมษายน ๒๔๙๐ เวลากลางวัน จำเลยนี้บังอาจเอาความซึ่งจำเลยรู้อยู่แล้วว่าเป็นความเท็จ และอาจทำให้ผู้อื่นหรือสาธารณชนเสียหายได้นั้น มาแจ้งแก่นายสวิง สิริเลิศ พนักงานสอบสวนอำเภอเมืองน่าน ผู้สอบสวนในคดีเรื่องนั้นเป็นใจความว่า ในวันเวลาที่นายแสนและนายเลิศ พลพิไชย ต้องหาว่าทำร้ายร่างการผู้มีชื่อนั้น นายแสนและนายเลิศ พลพิไชย เมาสุรานอนอยู่ที่บ้านของจำเลย จนค่ำมืดแล้ว คนทั้งสองจึงกลับบ้านของตน” ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์เห็นว่า ฟ้องไม่ถูกต้องตาม ป.ม.วิ.อาญามาตรา ๑๕๘(๕) พิพากษายกฟ้อง
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ในฟ้องไม่ได้กล่าวว่า ความข้อไหนเป็นเท็จอย่างไร ทำไมอาจทำให้ผู้อื่นหรือสาธารณชนเสียหาย เหล่านี้จะเข้าใจไม่ได้ดีเลยจากข้อความที่โจทก์บรรยายมาในฟ้องนั้น ศาลทั้งสองให้ยกเสียจึงถูกต้อง
พิพากษายืน