แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทผู้เปนหลานเขยฟ้องจำเลยซึ่งเปนยายของภรรยาโจทไนคดีที่จำเลยบุกรุกเข้าไปไนที่ดินพิพาทอันเปนสมรสระหว่างหลานเขยกับหลานสาวได้ ไม่เปนคดีอุทลุม
ย่อยาว
กรนีมีว่า จำเลยเปนยายหางปลอบภรรยาโจท นางเต็มเปนมารดาจำเลย เดิมนางเต็มเปนเจ้าของนา ๒ แปลงตามแผนที่ท้ายฟ้อง ต่อมานางเต็มยกที่นา ๒ แปลงนี้ไห้นางวันมารดานางปลอบช้านานแล้วโดยจำเลยยินยอมพร้อมไจ เมื่อนางเต็มตายแล้ว นางวันกับนายลั่นสามีได้ครอบครองมาด้วยความสงบละเปิดเผยจำเลยไม่เคยเกี่ยวข้อง เมื่อ ๑๓ ปีมานี้นางวันแม่ยายโจทตายนายลั่นพ่อตาโจทได้ครอบครองต่อมาเมื่อ ๓ ปีมานี้นายลั่นตายโจทกับนางปลอบเปนผู้รับมรดกของนายลั่นครอบครองที่นามาต่อมาจำเลยละพวกของจำเลยเข้าแย่งททำนาไนที่นานั้น โดยอ้างว่าเปนมรดกเดิมของบิดามารดาจำเลย โจทจึงฟ้องขอไห้สาลบังคับขับไล่หรือห้ามจำเลยและบริวารมิไห้เกี่ยวข้องและไห้ไช้ค่าเสียหาย
สาลชั้นต้นฟังข้อเท็ดจิงแล้ว พิพากสายกฟ้อง
สาลอุธรน์พิพากสากลับ ไห้ขับไล่จำเลยและบริวารมีไห้เกี่ยวข้องไนที่พิพาททั้ง ๒ แปลง
จำเลยดีกาไนข้อเท็ดจิงละข้อกดหมาย
สาลดีกาเห็นว่าข้อเท็ดจิงฟังได้ตามที่สาลอุธรน์ฟังมาแล้วส่วนข้อกดหมายที่จำเลยดีกาว่า โจทไม่ได้ฟ้องโดยอาสัยสิทธิครอบครองนั้น สาลดีกาเห็น+สิทธิครอบครอง
ขึ้นฟ้องด้วย และข้อที่จำเลยว่า โจทอาสัยสิทธินางปลอบฟองจำเลยผู้เปนยายนางปลอบเปนอุหลุม สาลดีกาเห็นว่าที่พิพาทเปนสมรสระหว่างโจทกับนางปลอบ จำเลยเข้าแย่งทำโจทไนถานะเปนสามีนางปลอบเปนหัวหน้าไนครอบครัว ย่อมมีสิทธิฟ้องจำเลยเพื่อป้องกันสิทธิได้ ฟ้องของโจทไม่เปนอุทลุมการกะทำของจำเลยเปนการละเมิดสิทธิของโจท จึงต้องรับผิดไนค่าเสียหาย พิพากสายืนตามคำพิพากสาสาลอุธรน์