คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 700/2496

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

มารดาจะยกนาแปลงหนึ่งให้แก่บุตร แต่มารดาต้องการเงินจำนวนหนึ่ง เพื่อจะเอาไปซื้อที่นาที่จังหวัดอื่น บุตร จึงหา เงินตามจำนวนั้นให้มารดาไป แต่ให้มารดาทำเป็นหนังสือกู้เงินจำนวนนั้นให้บุตร ยึดถือไว้มารดาจึงทำโอนยกที่นา นั้นแก่บุตรที่หอทะเบียน นับแต่มารดารับเงินจากบุตรดังกล่าวไปแล้วเป็นเวลานาน 9 ปี มารดาก็ไม่ได้ให้ดอกเบี้ย แก่บุตรเลย ดังนี้ ไม่เป็นการกู้จริงจัง วินิจฉัยว่า มารดาไม่ได้ยกที่นานั้นให้แก่บุตรตาม ป.ม.แพ่งฯมาตรา 521 ฉะนั้นมารดาจะฟ้องขอให้เพิกถอนและเรียกคืนฐานบุตรเนรคุณ ไม่ได้./

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอถอนคืนการให้ที่นาจากจำเลยผู้เป็นบุตร โดยอ้างว่าจำเลยเนรคุณ
จำเลยต่อสู้ว่า จำเลยได้ให้เงินค่าที่ดินเป็นค่าตอบแทนโจทก์ จะขอให้เพิกถอนไม่ได้
ศาลชั้นต้นเชื่อว่า จำเลยเนรคุณโจทก์ผู้เป็นมารดาจริง พิพากษาเพิกถอนการให้ที่ดินตามห้อง ให้จำเลยคืนที่ดินให้ โจทก์
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้ยกฟ้อง
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาฟังว่า โจทก์ยกที่นาพิพาทให้จำเลย แต่โจทก์ต้องการเงิน ๑๙๔๐ บาท เพื่อเอาซื้อที่นาที่จังหวัดพิจิต โจทก์ให้ จำเลยหาเงินจำนวนนี้มาให้ จำเลยก็ตกลง โจทก์จำเลยจึงพากันไปทำการโอนยกที่นารายพิพาทต่อหอทะเบียน วันรุ่ง ขึ้นจำเลยหาเงินให้โจทก์ ๑๙๔๐ บาท จำเลยให้โจทก์ทำเป็นหนังสือกู้เงินให้จำเลยยึดถือไว้ โจทก์รับเงินแล้วก็ไปจังหวัด พิจิตรพร้อมด้วยบุตรคนอื่น ต่อมาโจทก์กับบุตรชายคนเล็กกลับจากจังหวัดพิจิตมาอยู่กับจำเลย นับแต่โจทก์รับเงินไป จากจำเลยเป็นเวลานาน ๙ ปี ไม่ปรากฎว่า โจทก์ได้ให้ดอกเบี้ยแก่จำเลย ดังนี้ ศาลฎีกาเห็นว่า โจทก์ไม่ได้ยกที่นาพิพาท ให้แก่จำเลยโดยเสน่หา ตามความหมายของ ป.ม.แพ่งฯมาตรา ๕๒๑ ฉะนั้นโจทก์จะฟ้องขอให้เพิกถอนและเรียกคืนฐาน จำเลยเนรคุณไม่ได้ คดีไม่จำต้องพิจารณาถึงข้อเท็จจริงว่า จำเลยเนรคุณโจทก์จริงหรือไม่ต่อไป.
จึงพิพากษายืน.

Share