คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7/2492

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยให้การว่า สัญญาเช่า หากจะมีก็เป็นเอกสารปลอมซึ่งโจทก์กระทำขึ้นด้วยความไม่สุจริต ดังนี้ จำเลยย่อมสืบได้ว่า สัญญาเกิดขึ้นด้วยความไม่สุจริตได้มิใช่เป็นการสืบนอกประเด็นข้อต่อสู้แต่อย่างใด

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ขับไล่จำเลยออกจากที่ตามสัญญาเช่า และเรียกค่าเช่า จำเลยให้การว่าโจทก์ไม่มีสิทธิฟ้อง เพราะขัดต่อพระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าฯ และความจริงจำเลยไม่เคยทำสัญญาเช่าที่ดินโจทก์ สัญญาเช่าหากมีก็เป็นเอกสารปลอม ซึ่งโจทก์กระทำขึ้นด้วยความไม่สุจริต ที่ดินเป็นของบิดามารดาจำเลย ๆ ครอบครองมา10 ปีแล้ว

ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ฟังว่า สัญญาเช่าเกิดขึ้นด้วยความไม่สุจริตของโจทก์ พิพากษายกฟ้อง

โจทก์ฎีกาว่า การที่จำเลยสืบพยานว่า สัญญาเช่ารายนี้เกิดขึ้นโดยไม่สุจริต เป็นการนอกประเด็นข้อต่อสู้ ศาลไม่ควรรับฟัง

ศาลฎีกาเห็นว่า ข้อความตามคำให้การจำเลยที่ให้การว่าสัญญาเช่าหากจะมีก็เป็นเอกสารปลอมซึ่งโจทก์กระทำขึ้นด้วยความไม่สุจริตจำเลยย่อมสืบได้ว่าสัญญาเกิดขึ้นด้วยความไม่สุจริตได้ มิใช่เป็นการสืบนอกประเด็นข้อต่อสู้แต่อย่างใด

พิพากษายืน

Share