แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์ฟ้องว่า นายโทนได้กู้เงินโจทก์ไปและมอบที่นาไม่มีโฉนดให้โจทก์เป็นประกัน โดยมีข้อตกลงว่า เมื่อพ้น 6 เดือนนับแต่วันทำสัญญากู้ ยอมให้ที่นาตกเป็นกรรมสิทธิ์ของผู้ให้กู้ โจทก์ได้ครอบครองมา 6 ปีแล้ว ขอให้ขับไล่จำเลย จำเลยต่อสู้ว่านาพิพาทเป็นของจำเลยได้ให้นายโทนยืมไปให้โจทก์ทำต่างดอกเบี้ย เมื่อทางพิจารณาได้ความว่านายโทนได้นำนาไปมอบให้โจทก์โดยความยินยอมของจำเลย และจำเลยได้แถลงรับว่า ก่อนจะจำนำนา นายโทนได้ปรึกษากับจำเลยก่อนแล้วและในคำให้การจำเลยมิได้ปฏิเสธในข้อที่นายโทนไปทำสัญญากับโจทก์ ยอมให้ที่หลุดเป็นสิทธิแต่ประการใดไม่ดังนี้ ตามพฤติการณ์จึงส่อแสดงให้เข้าใจว่านายโทนทำไปโดยความยินยอมของจำเลย โจทก์จึงได้สิทธิครอบครองในที่รายนี้
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า นายโทนได้กู้เงินโจทก์ไป และได้นำที่นาไม่มีโฉนดของนายโทนมอบให้โจทก์เป็นประกัน ในการกู้รายนี้ คู่สัญญาตกลงกันว่าเมื่อพ้นกำหนด 6 เดือนนับแต่วันทำสัญญากู้แล้ว ผู้กู้ยินยอมให้ที่นาตกเป็นกรรมสิทธิ์ผู้ให้กู้ โจทก์ได้ครอบครองที่นารายนี้6 ปีเศษ จำเลยได้เข้าบุกรุกเข้าไปไถที่นา จึงขอให้ขับไล่ จำเลยให้การต่อสู้ว่า นาพิพาทเป็นของจำเลย นายโทนได้ขอ ขอยืมไปให้โจทก์ทำต่างดอกเบี้ย เพราะนายโทนกู้เงินโจทก์ เมื่อนายโทนตาย จำเลยไปขอชำระเงินตามสัญญากู้ โจทก์ไม่ยอมรับชำระหนี้ จำเลยจึงเข้าทำนาพิพาท โจทก์ไม่สืบพยาน ศาลชั้นต้นงดสืบพยานจำเลย และวินิจฉัยว่าจำเลยได้สละสิทธิที่รายนี้ให้โจทก์แล้ว พิพากษาว่าที่พิพาทเป็นสิทธิแก่โจทก์ ห้ามมิให้จำเลยเกี่ยวข้อง
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้ยกฟ้อง
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า ในการที่นายโทนทำนาพิพาท ไปมอบให้โจทก์ทำกินต่างดอกเบี้ยนั้น โดยความยินยอมของจำเลยและในการนำไปมอบแก่โจทก์นั้น ได้ระบุไว้ในสัญญากู้ถึงการนำที่รายนี้ไปเป็นประกันและระบุว่าถ้าพ้น 6 เดือนแล้ว ให้ที่เป็นกรรมสิทธิ์แก่ผู้ให้กู้จำเลยแถลงรับในรายงานพิจารณาว่า ก่อนจะจำนำนา จำเลยกับนายโทนได้ปรึกษากันก่อนแล้วจึงได้ไปจำนำนาไว้แก่โจทก์ และในคำให้การจำเลยมิได้ปฏิเสธในข้อที่นายโทนไปทำสัญญากับโจทก์ ยอมให้ที่หลุดเป็นสิทธินั้นแต่ประการใดไม่ ตามพฤติการณ์ที่ได้ความส่อแสดงให้เข้าใจว่านายโทนทำไปโดยความยินยอมของจำเลย โจทก์จึงได้สิทธิการครอบครองในที่นารายนี้
พิพากษากลับ ให้บังคับคดีไปตามศาลชั้นต้น